xs
xsm
sm
md
lg

ผู้สื่อข่าวเพชรร้องผู้ว่าฯ "จ่าจังหวัด" กร่างกระชากไหล่ค้ำคอนักข่าวหวังทำร้ายร่างกาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เพชรบุรี - จ่าจังหวัดเมืองเพชรกร่างคับศาลากลาง ปรี่เข้ากระชากไหล่และค้ำคอผู้สื่อข่าว บนศาลากลางขณะที่มีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ อ้างมั่วโดนนักข่าวให้ของลับคืนวันเปิดงานพระนครคีรี-เมืองเพชร ขณะถ่ายภาพพิธีเปิดงาน ซึ่งมีองคมนตรี เป็นประธานเปิด ขณะที่นายกสมาคมสื่อมวลชนเพชรบุรี พร้อมคณะกรรมการรุดเข้าพบผู้ว่าฯ ขอความเป็นธรรม

วันนี้ (30 มี.ค.55) ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี นายศักดิ์สิทธิ์ วิบูลย์ศิลป์โสภณ นายกสมาคมสื่อมวลชนเพชรบุรี พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมรวมประมาณ 10 คนได้เดินทางเข้าพบนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อแจ้งเหตุการณ์และขอความเป็นธรรม กรณีผู้สื่อข่าว นสพ.เพชรภูมิ และแนวหน้า ถูกนายพัลลภ สิงห์ทอง จ่าจังหวัด กระชากไหล่และค้ำคอเพื่อจะชกหน้า โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 29 มี.ค.เวลาประมาณ 10.30 น. บริเวณหน้าห้องประชุมพริบพรี ขณะมีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ในวันดังกล่าว

โดยนายศักดิ์สิทธิ์ วิบูลย์ศิลป์โสภณ นายกสมาคมสื่อมวลชนเพชรบุรี ได้เปิดเผยต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความเข้าใจผิดของนายพัลลภ สิงห์ทอง จ่าจังหวัด ที่เข้าใจว่าผู้สื่อข่าวตะโกนให้ของลับในวันเปิดงานพระนครคีรีเมืองเพชร เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 มี.ค.55 ที่ผ่านมา โดยวันดังกล่าวจะมีสื่อมวลชนหลายแขนงทั้งในท้องถิ่น ผู้สื่อข่าวส่วนกลาง ช่างภาพอิสระ และประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมชมพิธีเปิดงาน ได้ลงไปถ่ายภาพขณะมีขบวนแห่ผ่านหน้าปรัมพิธี ซึ่งหลังเสร็จสิ้นพิธีก็ไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น

กระทั่งเมื่อวันที่ 29 มี.ค.55 เวลาประมาณ 10.00 น. ที่ห้องประชุมพริบพรี ศาลากลางจังหวัดได้มีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนมีนาคม โดยมีนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.เพชรบุรี เป็นประธานการประชุม ซึ่งผู้สื่อข่าวทุกสำนักต่างก็ไปทำหน้าที่บันทึกภาพและทำข่าวเป็นปกติ กระทั่งขณะที่นายประชา สินธุรส ผู้สื่อข่าว นสพ.เพชรภูมิ (ท้องถิ่น) และยังเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์แนวหน้า ซึ่งเสร็จสิ้นภารกิจในการบันทึกภาพและทำข่าวได้เดินออกมาจากห้องประชุมเพื่อที่จะเดินทางกลับโรงพิมพ์ ในจังหวะนั้นมีนายพัลลภ สิงห์ทอง (จ่าจังหวัด) ได้เดินตามหลังออกมาจากห้องประชุม แล้วกระชากไหล่จนนายประชาต้องหันหลังมาตามแรงกระชก

จากนั้นได้ใช้มือค้ำและบีบเข้าไปที่คอหอย และพูดเสียงดับถามนายประชาด้วยถ้อยคำที่หยาบคายว่า “เมื่อคืนมึงกวนตีนกูเหรอ มึงให้ของลับกูทำไม” กระทั่งนายประชา ซึ่งช่วงแรกคิดว่าเป็นการล้อเล่น แต่เมื่อได้ยินคำถามและสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร จึงได้ปัดมือของนายพัลลภ ออก และถามนายพัลลภ ว่า "จ่าจำผมไม่ได้เหรอเมื่อวานยังคุยกันอยู่เลย และจ่ายังชมผมอยู่เลยว่าผมดีมากที่ลุกออกมาจากจุดที่จ่าให้ผมออกมา อีกทั้งจ่ายังเล่าให้ผมฟังอีกว่า มีชาวบ้านบอกผมว่ามีนักข่าวคนไหนไม่รู้ให้ของลับผม ซึ่งผมเองยังบอกกับจ่าว่า ไม่น่าจะเป็นนักข่าว และยังขอโทษแทนในกรณีหากเกิดเช่นนั้นจริง และจะลองสอบถามดูว่าเป็นใคร"

อีกทั้งยังย้ำว่า ไม่น่าจะเป็นนักข่าวหรือสื่อมวลชน เพราะคนจำนวนมากที่ลงไปถ่ายภาพ กระทั่งนายพัลลภ เริ่มจำได้ จึงได้กล่าวขอโทษ กระทั่งนายชัฏ แสงหิรัญภาดา กำนันตำบลสมอพลือ เดินออกมา และได้พูดคุยทำความเข้าใจต่อกัน ส่วนนายพัลลภ ยังคงแสดงสีหน้าเกรี้ยวกราดและอาการโกรธแค้น และยืนยันที่จะตามหานักข่าวคนดังกล่าว โดยเชื่อว่าเป็นคนใส่เสื้อลาย รูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวยังคงปักใจว่า เป็นนายเอกชัย อ่วมมา ผู้สื่อข่าวมีเดียนิวส์ และยังคงเดินหาตัว เพื่อที่จะจัดการให้ได้ กระทั่งการประชุมหัวหน้าส่วนราชการเสร็จสิ้น มีหัวหน้าส่วนราชการจำนวนมากเดินออกมา จึงได้ต่างแยกย้ายกันไป

ขณะที่นายเอกชัย อ่วมมา ได้ชี้แจงต่อ ผวจ.เพชรบุรีว่า ในช่วงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นซึ่งตนจำความได้ว่า ขณะนั้นมีคนดูและช่างภาพอิสระจำนวนมากลงไปถ่ายภาพรวมทั้งผู้สื่อข่าว นายพัลลภ ได้ใช้โทรโข่งประกาศย้ำอยู่ตลอดเวลาไม่ให้ผสข.เข้าไปถ่ายภาพ ซึ่งเป็นการใช้วาจาที่ไม่สุภาพและเสียดสี อาทิ ถ้าพวกคุณไม่อายคนอื่นๆก็ให้ลุกออกไป และจะมีประโยคที่ค่อนข้างจะดูแคลนสื่อมวลชนที่มาทำข่าวตลอดเวลา ซึ่งขณะนั้นตนเองได้ตะโกนถามเพราะเสียงบริเวณนั้นดังมากจากเครื่องขยายเสียงว่า ขอถ่ายภาพละครหุ่นที่บริเวณนี้อีกหน่อยได้ไหม เพราะโดนคนบังจนหมดแล้ว และก็ไม่ได้คิดว่ามีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น

ในส่วนของนายสุรพล นาคนคร อุปนายกสมาคมสื่อมวลชนเพชรบุรี ได้เรียนกับนายวินัย ว่า ในวันประชุมผู้ว่าพบสื่อมวลชน 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนก็ได้ย้ำปัญหาการจัดงานในที่ประชุมไปแล้วว่า จะมีประชาชนจำนวนมากรวมทั้งช่างภาพอิสระ ช่างภาพของอำเภอที่จัดขบวนแห่ ลงไปในบริเวณที่จัดให้มีการแสดงของขบวนแห่ขณะผ่านประธานเปิดงานจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหาทุกๆ ปี และให้ทางผู้รับผิดชอบเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไว้ล่วงหน้า ซึ่งทางผู้ดำเนินการต่างก็ทราบดี แต่ก็ยังปล่อยให้เกิดปัญหา ซึ่งในการทำงานทุกฝ่ายต่างก็ต้องการให้ภาพของการาจัดงานออกมาด้วยดีและเพื่อชื่อเสียงของจังหวัด

แต่เหตุการณ์กลับมาเกิดขึ้นในลักษณะคุกคามสื่อมวลชน โดยผู้ก่อเหตุแต่งเครื่องแบบข้าราชการเต็มยศ และกระทำบนศาลากลางจังหวัด ซึ่งเจ้าตัวที่ก่อเหตุเองก็ยังพูดอยู่ว่า ไม่รู้ว่าเป็นใคร แล้วก็ไม่ได้ยินด้วยหูตนเอง เพียงแต่อ้างว่ามีชาวบ้านบอกมา ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นเรื่องที่ไม่หน้าเกิดขึ้น นี่ขนาดเป็นสื่อมวลชนที่ทำงานเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับทางจังหวัด ยังโดนกระทำขนาดนี้ หากเป็นประชาชนทั่วไปก็ไม่รู้ว่าจะโดนกระทำขนาดไหน ซึ่งสื่อมวลชนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งขณะเปิดงานและขณะเกิดเหตุการณ์คุกคามสื่อบนศาลากลางต่างก็ได้ทยอยให้ข้อมูลกับผู้ว่าราชการจังหวัด

หลังรับฟังเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.เพชรบุรี ได้กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่มาแจ้งข้อมูลให้ทราบว่า รู้สึกยินดีที่มีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วสื่อไม่โต้ตอบจนก่อให้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท อีกทั้งยังได้เดินทางมาพบและเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง และตนเองในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของระดับจังหวัด ต้องกล่าวคำขอโทษเป็นอย่างยิ่ง และรับที่จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นก็พอทราบเรื่องราวเป็นภายในแล้วบางส่วน แต่ก็ขอย้ำกับทางสื่อมวลชนว่า หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่กล่าวมา ก็ให้ถือว่าเป็นเรื่องของบุคคล ซึ่งก็จะดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง แต่ขออย่าให้สื่อมวลชนท้อถอยในการทำงานให้กับทางจังหวัด เพราะหน้าที่ของทุกฝ่ายต่างก็ทำไปเพื่อส่วนรวม และรับว่า จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นธรรมที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น