ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจภูธรภาค 5 รวบหนุ่มสันทรายหลงผิดตั้งตัวเป็นพ่อค้ายาเค พบนำ “เคตามีน ไฮโดรคลอไรด์” มาผสม-แบ่งบรรจุก่อนขายนักเที่ยวกระเป๋าหนักตามสถานบันเทิง จัดการรวบตัวได้ยาเค-ยาไอซ์ พร้อมอุปกรณ์เพียบ หลังพบเดินสายส่งของทุกวัน ด้าน สธ.เผยปกติใช้เป็นยานำสลบ-คาดลักลอบนำเข้า
วันนี้ (30 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว พล.ต.ต.บุญมี สมสุข และ พล.ต.ต.วัฒนา สักกวัตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และนายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาซึ่งนำยาเคและยาไอซ์มาเสพและจำหน่ายในพื้นที่ จ.เชียงใหม่
โดยผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ได้แก่ นายพงศธร รุ่งเรืองธนกุล อยู่บ้านเลขที่ 333/128 หมู่ 6 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ถูกจับกุมพร้อมยาไอซ์จำนวน 2 ถุง น้ำหนัก 8.35 กรัม และ 41.25 กรัม เคตามีน ไฮโดรคลอไรด์ หรือยาเค ชนิดน้ำ จำนวน 455 ขวด และชนิดผง จำนวน 1 ขวด ขวดเปล่าสำหรับแบ่งบรรจุเคตามีน ไฮโดรคลอไรด์ ซุกซ่อนในรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค หมายเลขทะเบียน กง 5264 เชียงใหม่ จำนวน 7,700 ขวด และอุปกรณ์เสพยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันยังมียาเสพติดที่ตรวจยึดได้ในระหว่างที่นายพงศธรนำยาเสพติดไปส่งมอบลูกค้าที่จุดนัดหมาย ประกอบด้วยยาไอซ์ 1 ถุง น้ำหนัก 10.18 กรัม และเคตามีน ไฮโดรคลอไรด์ จำนวน 3 ขวด
การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสพยาเสพติดว่า นายพงศธรผู้ต้องหามีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาไอซ์และยาเคให้แก่ผู้เสพในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงได้ทำการติดตามสะกดรอยจนทราบว่านายพงศธรจะออกมาส่งยาเสพติดไว้ตามจุดต่างๆ ที่มีการนัดหมายกับลูกค้าไว้ ในช่วงเวลาประมาณ 19.00-24.00 น.ของทุกวัน
ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา นายพงศธรได้นำยาไอซ์ออกไปส่งให้ลูกค้า โดยนำไปวางไว้ที่เสาไฟฟ้าข้างทาง บริเวณสถานีขนส่งอาเขต และนำยาเคไปวางไว้ที่เสาไฟฟ้าหน้าโรงแรมพาราไดซ์ อินน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำสิ่งของจากทั้งสองจุดไปตรวจสอบ เมื่อทราบว่าเป็นยาเสพติดจึงเข้าทำการจับกุมนายพงศธรได้ที่บ้านพัก พร้อมทั้งตรวจยึดยาเสพติดและอุปกรณ์ต่างๆ
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวถึงการจับกุมยาเคในครั้งนี้ว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์เป็นทั้งผู้เสพและจำหน่ายยาเคและยาไอซ์ให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิงใน จ.เชียงใหม่ โดยเคตามีน ไฮโดรคลอไรด์ที่นำมาจำหน่ายนั้น ผู้ต้องหาซื้อมาในราคาขวดละประมาณ 3,000 บาท ก่อนจะนำไปผสมและแบ่งบรรจุเพื่อจัดจำหน่าย โดยเคตามีน ไฮโดรคลอไรด์ 1 ขวดสามารถผสมและแบ่งบรรจุได้ 3 ขวด จำหน่ายในราคาขวดละประมาณ 2,500 บาท และหากนำไปจำหน่ายในสถานบันเทิงราคาอาจเพิ่มสูงถึง 3,500 บาท ส่วนการเสพนั้นจะต้องนำยาเคที่เป็นของเหลวไปเข้าเตาไมโครเวฟเพื่อให้น้ำระเหยออกจนเหลือแต่ตะกอนสีขาว ก่อนจะนำมาใช้เสพโดยการสูดดมหรือสูดควัน
ขณะที่ พ.ต.อ.วีรชน บุญทวี ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ในปัจจุบันยาเคแพร่หลายอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิงที่มีกำลังซื้อสูง หรือกลุ่มที่นิยมจัดงานสังสรรค์เฉพาะกลุ่ม โดยยาเคมีผลทำให้ผู้ใช้เกิดอาการประสาทหลอน สำหรับการสั่งยาจะใช้วิธีโทรศัพท์สั่งจากผู้ขายโดยตรงหรือติดต่อผ่านนายหน้าเพื่อนัดหมายในการรับยาเสพติดและชำระเงิน ขณะที่ผู้ค้ายาเคจะเก็บและผสมยาเพื่อแบ่งบรรจุครั้งละไม่มาก เนื่องจากเคตามีน ไฮโดรคลอไรด์ที่นำมาใช้ราคาค่อนข้างสูง โดยจะรอให้มีการสั่งซื้อก่อนจึงจะดำเนินการ
ด้านนายอิศรา นานาวิชิต หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับในประเทศไทย เคตามีน ไฮโดรคลอไรด์ถูกกำหนดให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 และใช้สำหรับนำสลบในการทำการผ่าตัดเท่านั้น โดยจะต้องมีฉลากภาษาไทยกำกับ
ส่วนยาที่ผู้ต้องหานำมาใช้ผสมเพื่อจำหน่ายแก่ผู้เสพนั้น น่าจะเป็นยาที่ได้จากการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งในขณะนี้ได้ส่งตัวยาที่มีการผสมไปทำการตรวจสอบแล้วว่ามีสารอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายในขั้นตอนของการผสมและแบ่งบรรจุหรือไม่
