กาญจนบุรี - ผบช.ภ.7 สั่งตำรวจชุดสืบภาคฯ ลงพื้นที่กาญจนบุรีช่วยคลี่คลายคดียิง “แย็ค หนองโรง” จำเลยคดีปล้นฆ่า ดับหลังออกจากศาล พร้อมสั่งให้เร่งจับกุมคนร้ายก่อเหตุยิง “นายกเทศบาลตำบลดอนขมิ้น” ให้ได้โดยเร็ว
วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 14.00 น.พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) กาญจนบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายสมัย อำไพ หรือ แย็ค หนองโรง ผู้ต้องหาในคดีฆ่าเผาอำพรางคดีเพื่อชิงทรัพย์ เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รองผบช.7 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่มาร่วมคลี่คลายคดีนี้ เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายได้ก่อเหตุช่วงเวลากลางวันแสกๆ พฤติกรรมแสดงว่าไม่เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด
ในส่วนความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบออกไปหลายชุด และแยกย้ายกันออกสืบสวนหาข่าวและหาเบาะแสที่อยู่ของคนร้ายแล้ว
โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดของ ร.ต.อ.วันชัย ทองเครือ รองสว.สส.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้นำกำลังเดินทางไปที่บริเวณชายเขาแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง เนื่องจากแนวทางการสืบสวน ทราบว่า ผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งได้นำเอาอาวุธปืนขนาด 9 มม.มาทำการฝึกซ้อมยิงบริเวณดังกล่าวอยู่เป็นประจำ เจ้าหน้าที่จึงเชื่อได้ว่าผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยการฝึกยิงปืนเกิดขึ้นก่อนที่ นายสมัย หรือ แย็ค อำไพ จะถูกยิงเสียชีวิต
ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ และพบหัวกระสุนชนิดเดียวกันติดฝังอยู่อยู่กับต้นไม้ที่เป็นเป้ายิง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อเปรียบเทียบว่าเป็นกระสุนปืนชนิดและยี่ห้อเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่
ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี เปิดเผยต่อว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ แล้วนำไปเปรียบเทียบกับกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ตามสถานที่ต่างๆ พบว่า รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ คือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สังเกตจากรูปร่างของคนร้าย คาดว่า จะมีอายุระหว่าง 25-30 ปี โดยคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อเหตุเพียงคนเดียว ลักษณะสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีฟ้า สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ
ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไป เนื่องจากสืบทราบว่า นายสมัย หรือ แย็ค อำไพ ผู้ตาย มีความขัดแย้งและสร้างศัตรูไว้หลายกลุ่มพอสมควร ล่าสุด ได้ก่อคดีฆ่าชิงทรัพย์แล้วเผาศพเพื่ออำพรางคดีหญิงสาวอาชีพพนักงานบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง เหตุเกิดในพื้นที่ตำบลหนองรี อ.บ่อพลอย และไม่ได้ก่อเหตุเพียงลำพังผู้เดียว แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ขอปิดรายชื่อผู้ต้องสงสัยไว้เป็นความลับ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะรู้ตัวและหลบหนีไปก่อน คงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำงานสักระยะหนึ่งก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ ผกก.สภ.ท่าม่วง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชานุ ชินินทร รองผกก.สส.ร่วมกับ พ.ต.ท.จำลอง จ้อยพึ่งพร สว.สส.ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เพื่อเดินทางไปที่บ้าน นายสนิท นางสมหมาย พ่อและแม่ของผู้ตาย อีก 1 ชุด เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 2 หมู่ 8 ต.หนองโรง อ.พนมทวน ซึ่งเป็นบ้านของนายสมัย ผู้ตาย พร้อมกระจายกำลังกันตรวจสอบบริเวณไร่มันสำปะหลังของ นายสมัย อำไพ หรือ แย็ค เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า ผบช.ภ.7 ได้สั่งการเป็นกรณีเร่งด่วน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี จะต้องเร่งคลี่คลายติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ ที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ทั้ง 2 คดี ให้ได้โดยเร็ว คือ คดีคนร้ายก่อเหตุยิง นายศุภกิจ หรือ นายกมวย สิทธิวิไล นายกเทศบาลตำบลดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา และล่าสุด คดีคนร้ายประกบยิงนายสมัย อำไพ หรือ แย็ค หนองโรง เสียชีวิตวานนี้ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งสองคดีถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด
นอกจากนั้น ผบช.ภ.7 ยังมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีทั้ง 2 คดีด้วย
วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 14.00 น.พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) กาญจนบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายสมัย อำไพ หรือ แย็ค หนองโรง ผู้ต้องหาในคดีฆ่าเผาอำพรางคดีเพื่อชิงทรัพย์ เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รองผบช.7 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่มาร่วมคลี่คลายคดีนี้ เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายได้ก่อเหตุช่วงเวลากลางวันแสกๆ พฤติกรรมแสดงว่าไม่เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด
ในส่วนความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบออกไปหลายชุด และแยกย้ายกันออกสืบสวนหาข่าวและหาเบาะแสที่อยู่ของคนร้ายแล้ว
โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดของ ร.ต.อ.วันชัย ทองเครือ รองสว.สส.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้นำกำลังเดินทางไปที่บริเวณชายเขาแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง เนื่องจากแนวทางการสืบสวน ทราบว่า ผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งได้นำเอาอาวุธปืนขนาด 9 มม.มาทำการฝึกซ้อมยิงบริเวณดังกล่าวอยู่เป็นประจำ เจ้าหน้าที่จึงเชื่อได้ว่าผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยการฝึกยิงปืนเกิดขึ้นก่อนที่ นายสมัย หรือ แย็ค อำไพ จะถูกยิงเสียชีวิต
ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ และพบหัวกระสุนชนิดเดียวกันติดฝังอยู่อยู่กับต้นไม้ที่เป็นเป้ายิง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อเปรียบเทียบว่าเป็นกระสุนปืนชนิดและยี่ห้อเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่
ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี เปิดเผยต่อว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ แล้วนำไปเปรียบเทียบกับกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ตามสถานที่ต่างๆ พบว่า รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ คือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สังเกตจากรูปร่างของคนร้าย คาดว่า จะมีอายุระหว่าง 25-30 ปี โดยคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อเหตุเพียงคนเดียว ลักษณะสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีฟ้า สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ
ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไป เนื่องจากสืบทราบว่า นายสมัย หรือ แย็ค อำไพ ผู้ตาย มีความขัดแย้งและสร้างศัตรูไว้หลายกลุ่มพอสมควร ล่าสุด ได้ก่อคดีฆ่าชิงทรัพย์แล้วเผาศพเพื่ออำพรางคดีหญิงสาวอาชีพพนักงานบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง เหตุเกิดในพื้นที่ตำบลหนองรี อ.บ่อพลอย และไม่ได้ก่อเหตุเพียงลำพังผู้เดียว แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ขอปิดรายชื่อผู้ต้องสงสัยไว้เป็นความลับ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะรู้ตัวและหลบหนีไปก่อน คงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำงานสักระยะหนึ่งก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ ผกก.สภ.ท่าม่วง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชานุ ชินินทร รองผกก.สส.ร่วมกับ พ.ต.ท.จำลอง จ้อยพึ่งพร สว.สส.ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เพื่อเดินทางไปที่บ้าน นายสนิท นางสมหมาย พ่อและแม่ของผู้ตาย อีก 1 ชุด เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 2 หมู่ 8 ต.หนองโรง อ.พนมทวน ซึ่งเป็นบ้านของนายสมัย ผู้ตาย พร้อมกระจายกำลังกันตรวจสอบบริเวณไร่มันสำปะหลังของ นายสมัย อำไพ หรือ แย็ค เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า ผบช.ภ.7 ได้สั่งการเป็นกรณีเร่งด่วน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี จะต้องเร่งคลี่คลายติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ ที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ทั้ง 2 คดี ให้ได้โดยเร็ว คือ คดีคนร้ายก่อเหตุยิง นายศุภกิจ หรือ นายกมวย สิทธิวิไล นายกเทศบาลตำบลดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา และล่าสุด คดีคนร้ายประกบยิงนายสมัย อำไพ หรือ แย็ค หนองโรง เสียชีวิตวานนี้ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งสองคดีถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด
นอกจากนั้น ผบช.ภ.7 ยังมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีทั้ง 2 คดีด้วย