ลำปาง - หมอกควันปกคลุมทั่วลำปางทำผู้ป่วยหอบหืดสูงอายุ อ.แม่เมาะ ต้องพกยาพ่นจมูก หลังตัวเลขผู้ป่วยเพิ่ม-คนไข้อาการหนักต้องเข้ารักษาตัวใน รพ.ชาวบ้านครวญมอกควันจำนวนมากทำหายใจไม่ออกต้องคอยพ่นยาบรรเทาอาการ แถมล่าสุดพบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน
รายงานข่าวจาก จ.ลำปาง แจ้งว่า จากสภาพอากาศในภาคเหนือที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันติดต่อกันมาร่วม 2 เดือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะด้านสุขภาพ ซึ่งส่งผลให้ชาวบ้านเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ปอด ภูมิแพ้ หอบหืด รวมถึงโรคทางผิวหนัง โดยข้อมูลของทางโรงพยาบาลเกือบทุกแห่งพบว่ามีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ที่บ้านหัวฝาย ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง พบว่า มีผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้สูงอายุและเป็นโรคหอบหืดต้องพกยาพ่นจมูกตลอดเวลา เนื่องจากหายใจติดขัด โดย นายเครื่อง ใจแก้ว อายุ 93 ปี เปิดเผยว่า ตนป่วยด้วยโรคหอบหืดมากว่า 8 ปีแล้ว ช่วงที่อากาศไม่ดีต้องพกยาเพื่อพ่นจมูกตลอดเนื่องจากหายใจไม่ออก บางวันในช่วงเช้าต้องใช้ผ้าคลุมศรีษะเนื่องจากหมอกควันมีจำนวนมาก ขณะที่ในหมู่บ้านมีผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดกว่า 20 คน บางคนอาการหนักก็ต้องเข้านอนรักษาตัวในโรงพยาบาล
ด้าน นางเอี้ยน อู่เงิน อายุ 62 ปี กล่าวว่า ตนเองก็เป็นโรคหอบหืดมาร่วม 7 ปี ช่วงนี้ต้องพ่นยาและกินยาขยายหลอดลมเพื่อบรรเทาอาการ และพยายามอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น เพราะนอกบ้านมีหมอกควันจำนวนมากทำให้หายใจไม่ออก โดยเฉพาะตอนเช้าและกลางคืน หากหายใจไม่ออกต้องพ่นยา และนอนก้มหน้าเพื่อให้หายใจโล่งถึงจะเข้านอนได้
ล่าสุด มีรายงานว่า นายปี วงค์อะทะ อายุ 75 ปี ชาวบ้านหัวฝาย ได้เสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อน ทั้งหอบหืด ปอด และไต รวมถึงมะเร็งที่คอด้วย ซึ่งญาติได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้านและจะทำการฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) โดย นางมนัสนันท์ อู่เงิน ลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายปี เจ็บป่วยมาหลายปีแล้ว แต่เนื่องจากทางบ้านยากจนจึงไม่ได้ไปตรวจร่างกายเหมือนคนอื่น จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมาเริ่มมีอาการหอบหืดหายใจไม่ค่อยออกมากขึ้น จึงได้พาไปรักษาที่โรงพยาบาล กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานายปีอาการกำเริบมากขึ้น จึงพาไปโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ก็อยู่ได้เพียงสองวันก็เสียชีวิตลงเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
สำหรับสภาพอากาศที่ จ.ลำปาง ในวันนี้ ผลการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) จากทั้ง 4 สถานีในจังหวัด พบว่ายังคงมี 2 สถานี ที่ยังมีค่า PM10 เกินกว่ามาตรฐาน คือที่ศาลหลักเมืองลำปาง วัดได้ 128.71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ดเมตร และที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลบ้านท่าสี อ.แม่เมาะ วัดได้129.92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร