ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง หอบเครื่องลดมลภาวะประดิษฐ์เองพร้อมภาวนาจิตเปิดเครื่องโชว์สื่อข้างศาลากลางเชียงใหม่ ระบุ ธาตุพีระมิดในเครื่องทำหน้าที่ปล่อยพลังงานช่วยสร้างลม-เปิดเต็มกำลังสร้างลมพัดไล่หมอกควันได้ไกลถึง 5 กม.เผย เชียงรายมีใช้แล้วส่วนเชียงใหม่เล็งตั้งที่สนามบินเพิ่ม
วันนี้ (20 มี.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พระครูอนุสนธิ์ประชาทร (รัตน์ รตนญาโณ) เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมพุทธอุทยานสวนสมบูรณ์รักษ์ธรรม ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้นำเครื่องลดมลภาวะ จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องดึงความเย็น ดูดเมฆฝน จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นผลงานจากการคิดค้น และประดิษฐ์ขึ้นของพระครูอนุสนธิ์ประชาทร มาสาธิตการใช้งานให้สื่อมวลชนได้ชม พร้อมระบุว่า เครื่องดังกล่าวสามารถช่วยแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ จ.เชียงใหม่ ในขณะนี้ได้
เครื่องดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย วัตถุรูปทรงพีระมิดจำนวน 7 ก้อน ซึ่งสร้างจากวัสดุชนิดพิเศษ ที่พระครูอนุสนธิ์ประชาทร อ้างว่า เป็นธาตุที่ค้นพบจากถ้ำในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง ประกอบกับท่อน้ำ ปั๊มน้ำและถังน้ำ
มีหลักการทำงานคือเมื่อเปิดปั๊มน้ำ น้ำจะถูกสูบเข้าไปในท่อน้ำที่ประกอบให้หมุนวนอยู่รอบแกนพีระมิด โดยน้ำที่หมุนวนตามท่อจะเป็นตัวกลางดูดซับพลังงานที่แกนพีระมิดแผ่ออกมา แล้วเปลี่ยนพลังงานดังกล่าวให้กลายเป็นแรงเหวี่ยงที่จะไปเหนี่ยวนำให้อากาศที่อยู่โดยรอบเกิดการเคลื่อนไหวและยกตัวลอยขึ้นสูง ก่อให้เกิดช่องว่างของมวลอากาศ และทำให้เกิดมวลอากาศหรือลมที่จะเคลื่อนเข้ามาแทนที่มวลอากาศที่ยกตัวสูงขึ้นนั่นเอง
เมื่อเปิดเครื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้เกิดการไหลเวียนของอากาศ หรือลมหมุนเวียนตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยพัดพาเอาหมอกควันและมลพิษให้เบาบางลง
สำหรับการทำงานของเครื่องดังกล่าว จะใช้พลังงาน 80% ได้แก่ การเปิดปั๊มน้ำและการใช้พลังงานจากน้ำที่เติมลงไปในถังน้ำ เพื่อให้เกิดการไหลเวียนภายในเครื่อง ส่วนอีก 20% จะใช้พลังจิต โดยก่อนที่จะเริ่มใช้งานจะต้องทำการภาวนาจิต เพื่อกระตุ้นให้ธาตุภายในพีระมิดเริ่มปล่อยพลังงานเสียก่อน ซึ่งพระครูอนุสนธิ์ประชาทรได้ทำการภาวนาจิตเพื่อเปิดเครื่องลดมลภาวะ ทั้งที่ จ.เชียงราย และที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ให้สื่อมวลชนชมในระหว่างการสาธิตการทำงานของเครื่องดังกล่าวด้วย
ขณะที่หลังจากเครื่องดังกล่าวเริ่มทำงาน พบว่า ในบริเวณดังกล่าวเกิดลมพัดอยู่เป็นระยะ ซึ่งพระครูอนุสนธิ์ประชาทรยืนยันว่าเป็นผลมาจากการทำงานของเครื่องลดมลภาวะ โดยหากเปิดทำงานเต็มที่จะก่อให้เกิดลมพัดกินพื้นที่รัศมีประมาณ 5 กิโลเมตร
พระครูอนุสนธิ์ประชาทร ระบุด้วยว่า เครื่องดังกล่าวปัจจุบันมีการติดตั้งอยู่ที่ จ.เชียงราย 2 เครื่อง และที่ อ.แม่สายอีก 2 เครื่อง ส่วนที่ จ.แม่ฮ่องสอน เคยนำไปติดตั้งไว้ที่สนามบินแม่ฮ่องสอน แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้ให้ความสำคัญ จึงได้ยกเลิกการติดตั้ง
ส่วนการติดตั้งที่ จ.เชียงใหม่ นอกจากที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ยังเตรียมที่จะนำไปติดตั้งที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่อีกแห่งหนึ่ง
ด้าน หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการนำเครื่องดังกล่าวมาทดลองใช้ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ว่า การแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่า ต้องการความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน หากสามารถทำสิ่งใดได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนการนำเครื่องดังกล่าวมาใช้ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่นั้นจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน และกินพื้นที่กว้างขวางเพียงใด ก็คงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะต้องติดตามดูผลกันต่อไป