พระนครศรีอยุธยา - รองผบช.ก.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางลุยตรวจไม้พะยูงสวมสิทธิ์ภายในกลุ่มอุตสาหกรรมป่าไม้อยุธยา
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (19 มี.ค.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. พร้อม พ.ต.อ.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ รอง ผบก.ปทส.และ นายวิรัตน์ ด้วงบัว นักวิชาการป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบท่อนไม้ของกลางที่ทำการตรวจยึด ภายในกลุ่มอุตสาหกรรมป่าไม้อยุธยา (อู่บก) ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บไม้ของกลางที่กระทำผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.ศรีวราห์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางได้ทำการตรวจยึดไม้พะยูง และไม้ชนิดต่างๆ ได้ที่โกดังแห่งหนึ่งใน อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 350 ท่อน โดยเจ้าของอ้างว่า เป็นไม้ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วได้นำมาจากสถานที่เก็บไม้ของกลาง มีเอกสารการถอนอายัดและตรวจ แต่จากการตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ของกลุ่มอุตสาหกรรมป่าไม้อยุธยา พบว่า ไม้ดังกล่าวยังไม่มีการอนุญาตให้ขนย้ายออกไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งว่า หลังจากที่อัยการสั่งไม่ฟ้องไม้ที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 1,671 ท่อน
“ได้มาทำการตรวจและตีตราปล่อยไม้ที่ตรวจยึดแล้ว แต่ในเรื่องของการขนย้ายไม่ทราบว่ามีการขนย้ายเมื่อไร จึงต้องทำการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาการตรวจสอบอย่างละเอียดถึงรูปพรรณของไม้ ชนิดของไม้ ความยาว และลักษณะการตีตรา ตรวจยึด ตราปล่อย และเลขจำนวนท่อนไม้ที่ยังกองอยู่และที่พบในโกดัง อ.ลาดบัวหลวง ว่า ตรวจกับที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการลงทะเบียนไว้หรือไม่ เชื่อว่า น่าจะมีขบวนการสวมสิทธิท่อนไม้ของกลางที่มีคำสั่งสิ้นสุดของศาลแล้วนำเอกสารมาสวมสิทธิในการครอบครองไม้แทน จึงได้ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งไม้ท่อยาในอู่บก และที่พบในโกดังที่ อ.ลาดบัวหลง”
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (19 มี.ค.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. พร้อม พ.ต.อ.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ รอง ผบก.ปทส.และ นายวิรัตน์ ด้วงบัว นักวิชาการป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบท่อนไม้ของกลางที่ทำการตรวจยึด ภายในกลุ่มอุตสาหกรรมป่าไม้อยุธยา (อู่บก) ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บไม้ของกลางที่กระทำผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.ศรีวราห์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางได้ทำการตรวจยึดไม้พะยูง และไม้ชนิดต่างๆ ได้ที่โกดังแห่งหนึ่งใน อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 350 ท่อน โดยเจ้าของอ้างว่า เป็นไม้ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วได้นำมาจากสถานที่เก็บไม้ของกลาง มีเอกสารการถอนอายัดและตรวจ แต่จากการตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ของกลุ่มอุตสาหกรรมป่าไม้อยุธยา พบว่า ไม้ดังกล่าวยังไม่มีการอนุญาตให้ขนย้ายออกไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งว่า หลังจากที่อัยการสั่งไม่ฟ้องไม้ที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 1,671 ท่อน
“ได้มาทำการตรวจและตีตราปล่อยไม้ที่ตรวจยึดแล้ว แต่ในเรื่องของการขนย้ายไม่ทราบว่ามีการขนย้ายเมื่อไร จึงต้องทำการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาการตรวจสอบอย่างละเอียดถึงรูปพรรณของไม้ ชนิดของไม้ ความยาว และลักษณะการตีตรา ตรวจยึด ตราปล่อย และเลขจำนวนท่อนไม้ที่ยังกองอยู่และที่พบในโกดัง อ.ลาดบัวหลวง ว่า ตรวจกับที่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการลงทะเบียนไว้หรือไม่ เชื่อว่า น่าจะมีขบวนการสวมสิทธิท่อนไม้ของกลางที่มีคำสั่งสิ้นสุดของศาลแล้วนำเอกสารมาสวมสิทธิในการครอบครองไม้แทน จึงได้ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งไม้ท่อยาในอู่บก และที่พบในโกดังที่ อ.ลาดบัวหลง”