พะเยา - กศน.ภูซาง เตรียมประสานสถานศึกษาระดมสาว 15 ขึ้นไปเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสตรีฯ พมจ.ทำแผนออกพื้นที่สร้างความเข้าใจสตรี 9 อำเภอ ขณะที่ “แม่ญิงพะเยา” ระดมเครือข่ายรณรงค์จดสมาชิกกองทุนฯ
นางวิลาวัลย์ ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน (ผอ.กศน.) ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า การรับจดทะเบียนสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ตามนโยบายรัฐบาลนั้น กรอบการจดทะเบียนบุคคลเพื่อเป็นสมาชิกกองทุนฯ คือสตรีที่มีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ดังนั้น ตนจึงได้มีแผนการประสานงานไปยังผู้อำนวยการสถานศึกษาในพื้นที่ เพื่อรณรงค์ให้กลุ่มนักเรียนหญิงที่มีอายุ 15 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป จดทะเบียนเป็นสมาชิกกองทุนฯ เนื่องจากกลุ่มนี้ถือได้ว่าเป็นกลุ่มใหญ่ของจำนวนสตรีจังหวัดพะเยา ที่เข้าเกณฑ์เป็นสมาชิกกองทุนฯ ได้
ด้าน น.ส.ราณี วงศ์ประจวบลาภ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)พะเยา กล่าวว่า อยากให้สตรีที่มีคุณสมบัติสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ กันให้มากๆ ซึ่งได้สำรวจจำนวนสตรีที่มีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป พบว่ามีกว่า 210,000 คน ดังนั้นการสมัครสมาชิกต้องรณรงค์และเชิญชวนให้มากที่สุดเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มสตรีเอง
สำหรับทางหน่วยงาน พมจ.ตอนนี้ตนได้หารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานที่รับผิดชอบด้านสตรีโดยตรง เพื่อจัดทำแผนไปร่วมเวทีกับองค์กรสตรีแต่ละอำเภอทั้ง 9 แห่งในจังหวัดพะเยา โดยเน้นกระบวนการให้ข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจแก่สตรีและองค์กรสตรีในเบื้องต้นก่อน เนื่องจากขณะนี้ระเบียบที่ชัดเจนทั้งเรื่องงบประมาณ การใช้เงินกองทุนยังไม่ชัดเจน ซึ่งทุกฝ่ายต้องรอ
“ดังนั้น ระหว่างรอก็ต้องเตรียมพร้อมข้อมูลของสตรีและองค์กรสตรี ตรงนี้ทาง พมจ.จะระดมข้อมูลปัญหาและความต้องการของสตรีทั้ง 9 อำเภอ เพื่อจะได้นำมาจัดทำแผนพัฒนาสตรีตามเจตนารมณ์ของกองทุนฯ ต่อไป” พมจ.พะเยากล่าว
นางสุภัคสร วรรณปลูก ประธานเครือข่ายแม่ญิงพะเยา กล่าวว่า การที่รัฐบาลโดยสำนักงานนายกรัฐมนตรี ได้ให้ขยายเวลาการจดทะเบียนสมาชิกถึงวันที่ 31 มีนาคม 2555 และจะคัดเลือก กก.กองทุนฯ ในเดือนเมษายน 2555 นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะขณะนี้ในหลายพื้นที่สตรีกำลังสับสน บางแห่งสตรีปัดไม่ให้ผู้ใหญ่บ้านมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของสตรี ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นดังนั้น เพราะการคัดเลือกตัวแทนสตรีระดับหมู่บ้านเพื่อเป็น กก.กองทุนฯ ระดับตำบล ทางผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่จะเป็นผู้จัดทำการประชุมประชาคมเพื่อคัดเลือก ดังนั้นคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) จะต้องมีส่วนร่วม
“สำหรับเครือข่ายฯ ขณะนี้ภารกิจสำคัญคือเร่งรณรงค์ให้สมาชิกและสตรีทั่วจังหวัดจดทะเบียนเป็นสมาชิกกองทุนฯ ให้มากที่สุด เพราะหากว่ามีผู้สมัครสมาชิกกองทุนฯ น้อย เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อจำนวนเงินงบประมาณที่รัฐบาลจะจัดสรรอุดหนุนมาให้น้อยตามไปด้วย ดังนั้นต้องรณรงค์ถึงความสำคัญของกองทุนฯ เพื่อให้สตรีที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป สมัครเป็นสมาชิกให้เต็ม 100%” ปธ.เครือข่ายแม่ญิงพะเยา กล่าว
นางวิลาวัลย์ ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน (ผอ.กศน.) ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า การรับจดทะเบียนสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ตามนโยบายรัฐบาลนั้น กรอบการจดทะเบียนบุคคลเพื่อเป็นสมาชิกกองทุนฯ คือสตรีที่มีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ดังนั้น ตนจึงได้มีแผนการประสานงานไปยังผู้อำนวยการสถานศึกษาในพื้นที่ เพื่อรณรงค์ให้กลุ่มนักเรียนหญิงที่มีอายุ 15 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป จดทะเบียนเป็นสมาชิกกองทุนฯ เนื่องจากกลุ่มนี้ถือได้ว่าเป็นกลุ่มใหญ่ของจำนวนสตรีจังหวัดพะเยา ที่เข้าเกณฑ์เป็นสมาชิกกองทุนฯ ได้
ด้าน น.ส.ราณี วงศ์ประจวบลาภ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)พะเยา กล่าวว่า อยากให้สตรีที่มีคุณสมบัติสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ กันให้มากๆ ซึ่งได้สำรวจจำนวนสตรีที่มีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป พบว่ามีกว่า 210,000 คน ดังนั้นการสมัครสมาชิกต้องรณรงค์และเชิญชวนให้มากที่สุดเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มสตรีเอง
สำหรับทางหน่วยงาน พมจ.ตอนนี้ตนได้หารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานที่รับผิดชอบด้านสตรีโดยตรง เพื่อจัดทำแผนไปร่วมเวทีกับองค์กรสตรีแต่ละอำเภอทั้ง 9 แห่งในจังหวัดพะเยา โดยเน้นกระบวนการให้ข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจแก่สตรีและองค์กรสตรีในเบื้องต้นก่อน เนื่องจากขณะนี้ระเบียบที่ชัดเจนทั้งเรื่องงบประมาณ การใช้เงินกองทุนยังไม่ชัดเจน ซึ่งทุกฝ่ายต้องรอ
“ดังนั้น ระหว่างรอก็ต้องเตรียมพร้อมข้อมูลของสตรีและองค์กรสตรี ตรงนี้ทาง พมจ.จะระดมข้อมูลปัญหาและความต้องการของสตรีทั้ง 9 อำเภอ เพื่อจะได้นำมาจัดทำแผนพัฒนาสตรีตามเจตนารมณ์ของกองทุนฯ ต่อไป” พมจ.พะเยากล่าว
นางสุภัคสร วรรณปลูก ประธานเครือข่ายแม่ญิงพะเยา กล่าวว่า การที่รัฐบาลโดยสำนักงานนายกรัฐมนตรี ได้ให้ขยายเวลาการจดทะเบียนสมาชิกถึงวันที่ 31 มีนาคม 2555 และจะคัดเลือก กก.กองทุนฯ ในเดือนเมษายน 2555 นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะขณะนี้ในหลายพื้นที่สตรีกำลังสับสน บางแห่งสตรีปัดไม่ให้ผู้ใหญ่บ้านมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของสตรี ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นดังนั้น เพราะการคัดเลือกตัวแทนสตรีระดับหมู่บ้านเพื่อเป็น กก.กองทุนฯ ระดับตำบล ทางผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่จะเป็นผู้จัดทำการประชุมประชาคมเพื่อคัดเลือก ดังนั้นคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) จะต้องมีส่วนร่วม
“สำหรับเครือข่ายฯ ขณะนี้ภารกิจสำคัญคือเร่งรณรงค์ให้สมาชิกและสตรีทั่วจังหวัดจดทะเบียนเป็นสมาชิกกองทุนฯ ให้มากที่สุด เพราะหากว่ามีผู้สมัครสมาชิกกองทุนฯ น้อย เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อจำนวนเงินงบประมาณที่รัฐบาลจะจัดสรรอุดหนุนมาให้น้อยตามไปด้วย ดังนั้นต้องรณรงค์ถึงความสำคัญของกองทุนฯ เพื่อให้สตรีที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป สมัครเป็นสมาชิกให้เต็ม 100%” ปธ.เครือข่ายแม่ญิงพะเยา กล่าว