xs
xsm
sm
md
lg

“รมว.สธ.” รุดมอบนโยบาย “30 บาทยุคใหม่” ภาคอีสาน - มุ่งผุด รพ.สต.1,500 แห่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเปิดการสัมมนาอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขต ภาคอีสาน พร้อมมอบนโยบายโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคยุคใหม่ ที่จ.นครราชสีมา วันนี้ (15 มี.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่มอบนโยบายอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตภาคอีสานที่โคราช เตรียมพร้อมรับ “นายกฯปู” เปิดโครงการ “30 บาทรักษาทุกโรค ยุคใหม่” 22 มี.ค.นี้ ระบุ เป้าหมาย 4 ปี เน้นคุณภาพบริการ มุ่งพัฒนา 4 เรื่องหลัก คือ มีหมอใกล้บ้านใกล้ใจ ผุด “รพ.สต.” เขตชนบท และในเมืองเพิ่ม 1,500 แห่ง - มียาดีใช้เพียงพอมาตรฐานเดียวกันทุกสิทธิ - ให้บริการผู้ป่วยรวดเร็วขึ้น และ เร่งรัดการสร้างสุขภาพ

วันนี้ (15 มี.ค.) ที่โคราชรีสอร์ท อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการสัมมนาอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขต (อปสข.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในโอกาสนี้ได้มอบนโยบายพร้อมปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ก้าวต่อไปของระบบหลักประกันสุขภาพ ใน 4 ปีข้างหน้า” โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพเขต 7 ขอนแก่น เขต 8 อุดรธานี เขต 9นครราชสีมา จำนวนกว่า 500 คน

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข สร้างหลักประกันให้กับคนทุกคนให้สามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ตามความจำเป็นและมีคุณภาพ มาตรฐานเท่าเทียมกัน ไม่ล้มละลายจากการเจ็บป่วย เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2545 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ประชาชนไทยมีหลักประกันสุขภาพครอบคลุมกว่า 63 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 99.36 ในจำนวนนี้อยู่ในสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้ามากที่สุด 47.73 ล้านคน

ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า “30 บาทรักษาทุกโรค ยุคใหม่” ใน 4 ปีจากนี้ไป ที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยตัวเอง ในวันที่ 22 มีนาคม นี้ จะมุ่งเน้นคุณภาพบริการ มีนโยบายพัฒนา 4 เรื่อง

ได้แก่ 1.มีหมอ “ใกล้บ้านใกล้ใจ” หรือหมอประจำครอบครัวทั้งในเขตเมืองและเขตชนบท ให้คำปรึกษาสุขภาพ หากเจ็บป่วยรุนแรงมีการส่งต่อไปรักษาที่เหมาะสม โดยในเขตชนบทจะดำเนินการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต.1,000 แห่ง มีพยาบาลวิชาชีพครบทุกตำบลอย่างน้อย 1 คน ส่วนในเขตเมืองตั้งเป้า 500 แห่ง ภายในปี 2557 โดยดึงคลินิกชุมชนอบอุ่น ศูนย์บริการสาธารณสุของค์กรปกครองท้องถิ่น และโรงพยาบาลขนาดเล็กของภาครัฐและเอกชน ร่วมเป็นหน่วยบริการประจำครอบครัว

2.มียาดีใช้เพียงพอ เพื่อให้ประชาชนได้รับยาดี ที่จำเป็น เหมาะสมกับความเจ็บป่วย ทั้งยารักษาโรคทั่วไปและยาที่ราคาสูง ทุกสิทธิการรักษาไม่แตกต่างกัน สนับสนุนให้ใช้การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ทั้งการนวดรักษา ประคบหลังคลอด เพิ่มขึ้นร้อยละ 10ต่อปี จะพัฒนายาสมุนไพรเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ ไม่น้อยกว่า 100 ตัว ตั้งศูนย์บริการการแพทย์แผนไทย มีแพทย์แผนไทยประจำ 200 แห่งและร้อยละ 50 ของ รพ.สต.มีบริการแพทย์แผนไทยพื้นฐาน

3.ให้บริการผู้ป่วยรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอรักษานาน การลดคิวรักษาโรคสำคัญ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง มีบริการทางด่วนผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดและหลอดเลือดสมองตีบ เพิ่มห้องตรวจโรค ขยายเวลาบริการ เพิ่มคลินิกนอกเวลา เพิ่มเครือข่ายเอกชนเข้าร่วมบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เพิ่มการผ่าตัดในโรงพยาบาลเอกชนกรณีไม่เร่งด่วน และมีศูนย์สำรองเตียงโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้น

และ 4.เร่งรัดการสร้างสุขภาพ เพื่อลดอัตราป่วย ตาย และผลกระทบจากโรคเรื้อรังต่างๆ ตั้งเป้าคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ความดันโลหิตสูงร้อยละ 80 สร้างเสริมสุขภาพเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ โดยสนับสนุนงบประมาณสร้างเสริมสุขภาพให้หน่วยบริการและกองทุนตำบล เด็กแรกเกิด - 5 ปี ทุกคนจะได้รับการคัดกรองภาวะขาดไอโอดีน ได้รับวัคซีนพื้นฐานครบเกณฑ์ และได้รับการดูแลช่องปากป้องกันฟันผุ

ผู้หญิงได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ผู้สูงอายุ 2.1ล้านคน และใส่ฟันเทียมทั้งปาก 4.5 หมื่นคน ตั้งกองทุนฟื้นฟูสุขภาพผู้พิการ ผู้สูงอายุที่ช่วยตนเองไม่ได้อย่างน้อย 12 จังหวัด โดยดำเนินการร่วมกับท้องถิ่น
นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข

กำลังโหลดความคิดเห็น