ศรีสะเกษ- ผู้ประกอบการแพร้านอาหารริมฝั่งแม่น้ำมูล ประสบภาวะขาดทุน ลูกค้าลดลงมากกว่าเดิมเกินครึ่ง เนื่องจากปริมาณน้ำในลำน้ำมูลลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้แห้งขอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แพร้านอาหารริมฝั่งแม่น้ำมูล ต.กุดเมืองฮาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ นางทิพพาพรรณ พิเคราะห์ ผู้ประกอบการแพร้านอาหารริมฝั่งแม่น้ำมูล กล่าวว่า ขณะนี้ร้านอาหารที่ขายอาหารบนแพริมฝั่งแม่น้ำมูล เริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำในลำน้ำมูลได้ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ลูกค้าที่เคยมารับประทานอาหารบนแพได้ลดลงไปกว่าร้อยละ 50 ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า ต้องการเดินทางมาพักผ่อน รวมทั้งรับประทานอาหาร และลงเล่นน้ำในลำน้ำมูล เพื่อคลายความร้อน จึงทำให้แพจำหน่ายอาหารของตนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากปริมาณน้ำมูลได้ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ตนได้ประสานงานไปยังเขื่อนราษีไศล ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถยกบานประตูระบายน้ำให้สูงขึ้นไปกว่านี้ได้ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี คือ ให้มีการปิดบานประตูระบายน้ำ 8 เดือน และเปิดบานประตูระบายน้ำในช่วงน้ำหลากอีก 4 เดือน ประกอบกับทางเขื่อนราษีไศลต้องมีการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในช่วงฤดูแล้งปีนี้ด้ว
นางทิพพาพรรณ พิเคราะห์ ผู้ประกอบการแพร้านอาหารริมฝั่งแม่น้ำมูล กล่าวต่อไปว่า ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูลในเขต อ.ยางชุมน้อย มีผู้ประกอบการแพร้านอาหาร ประมาณ 20 ร้าน ซึ่งขณะนี้ทุกร้านต่างก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ทำให้ประสบภาวะขาดทุนไปหลายร้านแล้ว และมีบางร้านถึงกับปิดกิจการไปแล้วก็มี เพราะต้องลงทุนไปซื้ออาหารสดมาเตรียมทำอาหารไว้ขายบริการลูกค้า แต่ในระยะนี้ลูกค้าได้ลดลงไปมาก ทำให้พวกตนต้องลดปริมาณในการซื้อของมาเพื่อเตรียมทำอาหารลงไปด้วย เพื่อปรับสภาพให้เข้ากับช่วงภัยแล้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ตนคิดว่า ปริมาณน้ำในลำน้ำมูลนี้ คงจะแห้งขอดลงไปมากกว่านี้อย่างแน่นอน และต้องพากันปิดกิจการ เนื่องจากไม่มีน้ำสำหรับให้ลูกค้าลงไปเล่นเพื่อคลายร้อนอีกต่อไป