พระนครศรีอยุธยา - ผบก.พระนครศรีอยุธยา เรียกประชุมตำรวจ 23 โรงพัก เครียดทั้งวัน เร่งสางคดียิงโจ๋ 3 ศพกลางถนน ยังพุ่งประเด็นเหตุก่อกวนซึ่งหน้า และขัดยาเสพติด
จากกรณีที่คนร้ายขับรถกระบะ 4 ประตู ตามประกบยิงแก๊งวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์บริเวณหน้าปั๊มแก๊ส LPG พีเอที แก๊ส ถนนโรจนะ (อยุธยา-วังน้อย) หมู่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย คือ นายธนะชัย อยู่เทศ อายุ 18 ปี นายณัฐพล หงษ์ทอง อายุ 19 ปี และ นายโหน่ง (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 16 ปี และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ นายน้อย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เมื่อกลางดึกวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (13 มี.ค.) พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่เกี่ยวข้องมาประชุมหาสาเหตุจึงสรุปไว้ 3 ประเด็น คือ 1.เกิดเหตุซึ่งหน้ากลุ่มผู้ตายชอบขับขี่รถเสียงดัง ก่อกวนตามท้องถนน ยกล้อโชว์อาจมีคนหมั่นไส้ 2.ยาเสพติด เพราะพบยาบ้า 1 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตอาจจะพัวพันเรื่องยาเสพติด และ 3.โกรธแค้นเรื่องส่วนตัว จึงได้สั่งการให้ตำรวจชุดสื บภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดตามเส้นทางที่คนร้ายก่อเหตุและหลบหนี ตรวจสอบคืนเกิดเหตุกลุ่มผู้ตายได้พบปะกับใครบ้าง และเช็กประวัติของผู้ตายอย่างละเอียด
จากการสืบสวนทราบว่า ช่วงคืนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 23.00 น กลุ่มผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 4 คัน มาตามถนนโรจนะ ขับเข้ามาในเมือง โดยมีการยกล้อ มาเต็มถนน พอมาถึงเจดีย์นักเลง (เจดีย์วัดสามปลื้ม) กลุ่มผู้ตายได้วนกลับไปตลาดแกรนด์ หลังจากนั้น ก็เข้าไปเล่นสนุก ที่โต๊ะแกรนด์ จนกระทั้งเวลา 02.30 น.จึงออกจากโต๊ะ จนมาถูกยิง
ล่าสุด ตำรวจพบกล้องวงจรปิดที่ตลาดแกรนด์ พบว่า คนร้ายขับรถกระบะนิสสันนาวาร่า 4 ประตู สีขาว หรือ สีบรอนซ์ ยังไม่แน่ชัด จอดรออยู่ปากทางพอกลุ่มผู้ตายขี่ จยย.ออกจากตลาดแกรนด์จึงขับรถตามไปประกบยิงในที่เกิดเหตุ ส่วนประเด็นยาเสพติดก็เป็นอีกประเด็นที่เป็นประเด็นหลักทางตำรวจก็จะสืบประวัติผู้ตายว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ อย่างไร ส่วนที่ทางพ่อแม่ของผู้ตายออกมาบอกว่าลูกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น ก็เป็นส่วนของผู้ปกครองที่จะพูดปฏิเสธได้
ข่าวแจ้งว่า วันนี้ (14 มี.ค.) พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เรียกชุดสืบสวนทั้ง 23 สถานีใน จ.พระนครศรีอยุะยา เข้าประชุมที่ห้องประชุมกองบังคับการเพื่อคลี่คลายคดีอย่างเคร่งเครียด โดยได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจหารถยนต์กระบะรุ่นนาวาร่า ที่อยู่ในพื้นที่ และตรวจเข้มทุกพื้นที่ และให้ระมัดระวังเพราะช่วงนี้ผู้ต้องหาคดียาเสพติดมักจะมีอาวุธปืนทุกคดี สำหรับรถที่ใช้ในการก่อเหตุก็จะดูรถในลักษณะที่มีลักษณะคล้ายกับรถนิสสันนาวาร่า ด้วย แต่เน้นนิสสันนาวาร่าก่อน ซึ่งจากการสอบถามพยานและผู้รอดชีวิต คาดว่า น่าจะเป็นรถของคนร้าย ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ ที่จะนำไปสู่การจับคนร้ายมาดำเนินคดี
ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากภาพวงจรปิดเห็นรถยังไม่ชัดเจน จึงได้ส่งภาพไปให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมเทคโนโลยีเพื่อขยายภาพให้ใหญ่และชัดเจนว่าใช่รถนิสสันนาวาร่าและสีใดแน่คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน
