คนไข้วอนประกันสังคมเห็นใจคนไข้ที่ใช้บัตรประกันสังคม

ศูนย์ข่าวศรีราชา - คนไข้วอนประกันสังคมเห็นใจคนไข้หลังประสบอุบัติเหตุนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชล 2 โดยใช้บัตรประกันสังคม แต่สภาพร่างกายยังไม่หายเป็นปกติ เมื่อแพทย์วินิจฉัย ให้ออกก็ต้องออกโดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด

นางอนุลักษณ์ กมลสถิตกุล อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 1 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี ผู้ประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์เก๋งชน ขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 10 มี.ค.55 หลังกลับจากการไปร่วมสัมมนากับแกนนำพันธมิตรฯ ที่ กทม.และมาถึงที่เมืองชลบุรี ประมาณ 4 ทุ่ม โดยลูกชายได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปรับที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชลบุรี เพื่อกลับบ้าน

ระหว่างจะข้ามถนนเพื่อยูเทิร์นกลับบ้านนั้น ถูกรถเก๋งมิตซูบิชิ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กม 6071 กทม.พุ่งชนรถมอเตอร์ไซค์อย่างแรง ทำให้ลูกชายขาขวาหัก ส่วนตนเองสลบไป ไปฟื้นที่โรงพยาบาลเอกชล 2 ในสภาพที่ฟกช้ำไปทั้งตัวและนิ้วหัวแม่โป้งขวาร้าว ต้องใส่เฝือก

นางอนุลักษณ์ กล่าวต่อว่า ตนต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 10-12 มี.ค. และในวันที่ 13 มี.ค.เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแจ้งให้ออกในช่วงเวลา 14.00 น.เนื่องจากมีนายแพทย์ 3 คนวินิจฉัยแล้วว่าให้กลับไปนอนรักษาตัวต่อที่บ้านได้แล้ว เนื่องจากไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแต่ฟกช้ำภายนอกเท่านั้น โดยภายในมีการเอกซเรย์แล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร

ด้าน นายนิธินันท์ กมลสถิตกุล บุตรชายคนโต กล่าวว่า หลังเห็นสภาพมารดาที่ยังมีบาดแผลฟกช้ำ และยังไม่สามารถเดินได้ โดยแจ้งจะขอนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่ออีก 2-3 วันเพื่อให้แม่มีอาการดีขึ้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไม่สามารถให้อยู่ต่อได้ เนื่องจากแพทย์วินิจฉัยแล้ว

“ผมได้แจ้งไปว่า หากนอนต่อค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ผมพร้อมออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด โดยได้รับคำตอบว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง และหมดสิทธิ์ในการใช้สิทธิประกันสังคม ซึ่งผมก็แปลกใจ เพราะต้องจ่ายเงินประกันสังคมมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว แต่มาประสบอุบัติเหตุและมารักษาตัวกลับได้รับการดูแลเพียงเท่านี้หรือ” นายนิธินันท์ กล่าว

นายนิธินันท์ กล่าวว่า ในความเป็นจริงประกันสังคมควรจะให้บริการ หรือดูแลคนไข้ให้ดีกว่านี้โดยอาจจะเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งประชาชนทั่วไปพร้อมจะจ่ายให้อยู่แล้ว เพื่อต้องการให้การดูแลรักษาเป็นไปด้วยดีและปลอดภัย เนื่องจากต้องเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลประกันสังคม

หากผู้ป่วยไม่มีเงินและเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล และต้องออกจากโรงพยาบาลกลางคันเช่นนี้ คงมีปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และต้องหาคนมาช่วยดูแล ซึ่งจะยิ่งสร้างปัญหาอย่างแน่นอน จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่ประักันสังคมได้ดูแลในจุดนี้ด้วย