xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว 3 ผู้ต้องหาฆ่าโหดฝรั่งดับคารีสอร์ตดังพร้อมเมียคนไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ พร้อมภรรยาชาวขอนแก่น ถูกคนร้ายบุกเข้าห้องพักในแจ๊คบีชรีสอร์ต ห้วยยาง อ.ทับสะแก ประจวบคีรีขันธ์ ใช้ของแข็งทุบสองสามีภรรยาชิงทรัพย์ ตายคาห้องพักนานกว่า 12 ชม. แม่บ้านเปิดห้องพบแจ้ง ตร.สภ.ห้วยยาง “ผบก.ประจวบฯ” พร้อมผู้ว่าฯ และนายอำเภอทับสะแก ร่วมประชุมคลี่คลายคดีกลางดึก และรวบตัวชาวประมงต้องสงสัยสอบกลางดึกพร้อม รปภ.ท่ามกลางญาติพี่น้องเฝ้ารอหน้า อบต.ห้วยยาง ล่าสุดตำรวจจับได้แล้ว 3 ผู้ต้องหา พร้อมควบคุมตัวไปทำแผนบ่ายวันนี้

จากกรณีเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วินัย รายละเอียด พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเหตุมีชาวต่างชาติและภรรยาคนไทยถูกฆ่าตายที่แจ๊คบีชรีสอร์ต เลขที่ 56/4 หมู่ 7 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิศิษฐ์ โสมินทุ รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบฯ (ฝ่ายป้องกันและปราบปราม) พ.ต.ท.มนตรี ดีบุกคำ สารวัตรใหญ่ สภ.ห้วยยาง, พ.ต.ท.สมคิด ไทรทอง พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลทับสะแก เดินทางไปยังห้องพักหมายเลข 11 ของแจ๊คบีชรีสอร์ต ภายในห้องพักดังกล่าวพบศพ Mr. michael raymand (ไมเคิล เรย์แมนด์) อายุ 68 ปี สัญชาติอังกฤษ นอนจมกองเลือด นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลไม่สวมเสื้อ อยู่ในห้องโถงใกล้โซฟา ลักษณะถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณใบหน้า ใกล้กันพบศพนางสุชาดา เบ้าคำดี อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234 หมู่ 4 ต.ชัยสอ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น สภาพศพสวมเสื้อชมพู ท่อนล่างเปลือยเปล่า ใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งจนจำสภาพไม่ได้ นอนเสียชีวิตบนพื้นบริเวณหน้าตู้เย็นในห้องนอน

ต่อมาเจ้าหน้าที่วิทยาการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฯ ได้เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบภายในห้องพักเปิดแอร์ทิ้งไว้ ส่วนประตูห้องและหน้าต่างไม่มีร่องรอยการงัดแงะ จากนั้นได้เก็บลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยาง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษพร้อมภรรยาได้เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้า รุ่นอาแวนซ่า สีดำ หมายเลข กพ 6606 กทม.จาก จ.ขอนแก่น มาเช็กอินเข้าพักเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 12 มีนาคม 2555 ต่อมาในเวลา 02.45 น.วันที่ 13 มีนาคม 2555 มีชาวบ้านซึ่งเป็นชาวประมงชายฝั่งที่ออกหาปลาในบริเวณได้ยินเสียงร้องครวญครางเสียงดังจากห้องพักและเข้าใจว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่เสพยาเสพติดหรือมีการร่วมเพศอย่างรุนแรง และจึงไม่ได้สนใจ

จนกระทั่งเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 13 มีนาคม 2555 วันเดียวกัน พนักงานทำความสะอาดของรีสอร์ทดังกล่าว ได้เข้าไปเคาะประตูห้องเรียกเพื่อขออนุญาตเข้าไปทำความสะอาดแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงใช้กุญแจกุญแจสำรองเปิดประตูเข้าไปดูพบว่าสองสามีภรรยานอนเสียชีวิต มีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สิน บนพื้นห้องมีเหรียญเศษสตางค์ตกอยู่เกลื่อนพื้น แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายจำนวนเท่าใด

เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายต้องเป็นบุคคลในพื้นที่ มีไม่ต่ำกว่า 3 คนที่ลงมือก่อเหตุ เพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ แต่เหยื่อขัดขืนและต่อสู้ จึงถูกคนร้ายใช้ของแข็งกระหน่ำตีอย่างทารุณจนสิ้นใจตายทั้งคู่ หลังจากนั้นจึงนำศพไปชันสูตรอีกครั้งที่โรงพยาบาลทับสะแก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยหลายราย พร้อมนำเสื้อผ้าของผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบปากคำ และเก็บเนื้อเยื่อในกระพุ้งแก้มเพื่อนำไปตรวจสอบดีเอ็นเอที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ

อย่างไรก็ตาม พบว่าบริเวณหน้า อบต.ห้วยยาง มีชาวบ้านให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมารวมตัวติดตามความคืบหน้าของคดี เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีใหญ่สร้างความเสียหายต่อภาพพจน์การท่องเที่ยว

ผบก.ประจวบฯ พร้อมผู้ว่าฯ นายอำเภอทับสะแก
ประชุมคลี่คลายคดีกลางดึก

ต่อมาเวลา 00.30 น.ของวันที่ 14 มีนาคม 2555 พล.ต.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายอำเภอทับสะแก ได้เดินทางมายัง อบต.ห้วยยาง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการประชุมเพื่อติดตามสืบหาตัวผู้กระทำความผิด พร้อมกันนี้ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด รวมไปถึงนายธวัชชัย แดงฉ่ำ นายก อบต.ทับสะแก พร้อมผู้บริหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีแม่บ้านไปพบศพ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาไปถึงห้องพักเกิดเหตุ นำมาสู่การเก็บหลักฐาน และตรวจสอบพื้นที่โดยรอบของรีสอร์ตดังกล่าว มีการวิเคราะห์ถึงการที่คนร้ายเข้าไปลงมือภายในห้องพักได้อย่างไร ในขณะที่ประตูรีสอร์ตมีการปิด มีเพียงยามเท่านั้นที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงกลางคืน อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมมั่นใจว่าส่วนหนึ่ง รปภ.จะต้องมีส่วนรู้เห็นในการเข้ามาของกลุ่มคนร้ายอย่างแน่นอน ตลอดจนผลการสอบสวนชาวประมงใกล้เคียงที่นำมาสอบสวนก่อนหน้านี้

หลังการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง ทั้ง พล.ต.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบฯ และนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุเป็นแนวทางเดียวกันว่า คนร้ายต้องเป็นคนในพื้นที่และคงเห็นสองสามีภรรยาเข้ามาพักและต้องเห็นทรัพย์สินของเมียชาวไทยที่ใส่มาไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อ พร้อมนาฬิกา พร้อมมั่นใจว่าคนร้ายทั้งคนลงมือและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างน้อยต้องมีประมาณ 3 คน ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมด จึงสั่งการให้มีการสอบสวนทั้งผู้จัดการรีสอร์ต ยาม และเจ้าของร้านอาหารริมทะเลที่ติดรีสอร์ต เพิ่มเติมและชาวประมงที่เชิญตัวมาสอบสวนสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียด และตรวจดูร่องรอยตามร่างกาย

ด้าน นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวภายกลังประชุมเสร็จเมื่อกลางดึกยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสื่อเสียต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ซึ่งคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจว่าจะจับคนร้ายที่ลงมืออย่างเหี้ยมโหดได้อย่างแน่นอน ซึ่งเบื้องต้นมีการสรุปประเด็นและมุ่งไปในทางชิงทรัพย์ของสองสามีภรรยามากกว่าเรื่องอื่นๆ

“ต่อไปคงต้องขอร้องให้ผู้ประกอบการรีสอร์ต ทุกแห่งในแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอต่างๆ จังหวัดประจวบฯ ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพราะหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นสามารถตรวจสอบย้อนหลังดูได้ แต่ที่รีสอร์ตแห่งนี้ไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีความคืบหน้าไปเยอะพอสมควร”

ขณะเดียวกัน นายธวัชชัย แดงฉ่ำ นายก อบต.ห้วยยาง กล่าวด้วยว่า “สาเหตุที่ชาวบ้านให้ความสนใจเกี่ยวกับคดีนี้เนื่องจากไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ตำบลห้วยยาง ซึ่งพื้นที่นี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาพักผ่อนอยู่อาศัยเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากมีทั้งรีสอร์ตและหมู่บ้านติดชายทะเล ซึ่งการฆ่าชาวต่างชาติและเมียคนไทยในครั้งนี้ ผมเห็นว่ามันลงมือเหี้ยมโหดมาก แต่อย่างไรก็เชื่อมั่นว่าตำรวจคงจับตัวคนร้ายที่ลงมือได้อย่างแน่นอน”

ตร.รวบ 3 ผู้ต้องหาลงมือฆ่าชาวอังกฤษ
พร้อมภรรยาชาวไทย

ต่อมาเวลา 02.30 น. พล.ต.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องสงสัยอาชีพชาวประมง เป็นลูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มีบ้านพักอยู่หลังรีสอร์ตดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวได้เข้าไปที่รีสอร์ตและขอยืมเงิน รปภ.ในช่วงกลางดึกของคืนวันเกิดเหตุมาสอบสวนนาน

จนกระทั่งเวลา 05.00 น. และชุดสืบสวนอีกชุดได้สอบปากคำ รปภ.ในคืนเกิดเหตุอย่างเคร่งเครียดด้วยกัน ซึ่งผลจากการสอบสวนดังกล่าวจึงนำไปสู่การออกหมายจับ 3 ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ และภรรยาชาวไทย

คือ 1. นายจักรรินทร์ หรือจีน อยู่เย็น อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/10 ม.7 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2. นายพงษ์พิทักษ์ หรือพัด ทัพสว่าง ทำงานอยู่ในรีสอร์ต เป็น รปภ. อายุ 29 ปี ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ 3. นายประจักร เหมืนจินคา ทำงานอยู่ในรีสอร์ตเป็นพ่อครัว อายุ 50 ปี อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งนายจักรรินทร์ ยังให้การปฏิเสธ

ส่วนอีก 2 รายยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นการลงมือฆ่าเพื่อชิงทรัพย์เท่านั้น ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่ อบต.ห้วยยาง และจะควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุทันที







กำลังโหลดความคิดเห็น