ระยอง - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและนิคมสหกรณ์ชะแวะ เข้ารื้อบ้านพัก 2 หลัง บนยอดเขาขุนอินทร์ หลังจากถูกกลุ่มนายทุนเข้าบุกรุกพื้นที่
วันนี้( 13 มีนาคม 55) ที่บริเวณยอดเขาขุนอินทร์ หมู่ที่ 1 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง นำโดยนายปานเทพ สินธุสนธิชาติ ปลัด อ.วังจันทร์ หน. ฝ่ายความมั่นคง นายสมชาย มีแสง ผอ.นิคมสหกรณ์ชะแวะ นายพสิษฐ์ จิระฉัฐวัฒน์ กำนันต.ป่ายุบใน นายสมพงษ์ คงเดช ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.ป่ายุบใน พร้อมเจ้าหน้าที่ อส.จำนวน 20 นายได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบการรื้อบ้านพัก จำนวน 2 หลัง บนเขาขุนอินทร์ ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 422 เมตร
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าพื้นที่บริเวณรอบเขาขุนอินทร์แห่งนี้ เป็นแหล่งรวมของกลุ่มเศรษฐีเมืองไทยที่มาซื้อที่ดินไว้นับหมื่นไร่ และเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2554 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีนายทุนบุกรุกตัดไม้ขนาดใหญ่ และแผ้วถางป่า เพื่อปลูกยางพารานับพันไร่ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่มีสภาพภูเขาสูงชัน เป็นแหล่งต้นน้ำ โดยกลุ่มมนายทุนและผู้มีอิทธิพลเข้าบุกรุกทำลายป่า ตัดโค่นไม้ใหญ่จำนวนมาก และแผ้วถางป่าเพื่อปลูกยางพารา กว่า 1,000 ไร่
นอกจากนี้ยังได้ปลูกบ้านพักและจุดชมวิวบนเชิงเขาซึ่งทางนิคมสหกรณ์ชะแวะ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกป่า ส่วนทางจังหวัดระยองได้ตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าเขาขุนอินทร์ จนได้ข้อสรุปและส่งเรื่องให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ออกคำสั่งโดยมอบอำนาจให้กับผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ชะแวะ เป็นผู้ดำเนินการรื้อถอน โดยมีเจ้าหน้าที่ปกครอง ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและ อส. ร่วมเป็นพยานในการรื้อถอนครั้งนี้
นายสมชาย มีแสง ผอ.นิคมสหกรณ์ชะแวะ กล่าวว่า หลังได้รับหนังสือที่ออกคำสั่งโดยนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบริเวณพื้นที่บุกรุกป่าเขาขุนอินทร์ ให้เป็นไปด้วยความถูกต้องและป้องกันปัญหาและข้อโต้แย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง โดยให้อำนาจนิคมสหกรณ์ฯแจ้งทางจังหวัดระยองและประสานความร่วมมือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยในการสังเกตุการณ์ในการรื้อถอนครั้งนี้ โดยบ้านพักสองหลังดังกล่าว เป็นบ้านพักชั้นเดียว ยกสูงชั้นเดียว ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่นิคมสหกรณ์ชะแวะ เข้าแจ้งความดำเนินคดี จับกุมดำเนินคดีกับผู้บุกรุก และได้มีการปิดประกาศให้ผู้ครอบครอง รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ออกไปจากพื้นที่ตามระยะเวลาที่กำหนด เมื่อครบกำหนดวันนี้ทางผู้ครอบครองไม่มีผู้ใดอ้างตัวเป็นเจ้าของบ้านพักหลังดังกล่าว จึงให้ เจ้าหน้าที่เข้าทำการการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเป็นที่น่าแปลกใจว่าการรื้อถอนบ้านพักครั้งนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมดำเนินแต่อย่างใด
