พิษณุโลก - ชลประทานจับมือกรมที่ดิน ดีเดย์ 16 มี.ค.นี้ ลงพื้นที่สำรวจแนวเขตรอบบึงระมาณ ก่อนขุดแก้มลิง 1,800 ไร่ หลังคนบางระกำร้อง ที่ดินมีเอกสารสิทธิ น.ส.3 กำลังถูกฮุบทำแก้มลิงสนองนโยบายรัฐบาล ทำเป็นพื้นที่รับน้ำ ป้องกันน้ำท่วมภาคกลาง
หลังชาวบ้าน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 12 มี.ค.55 ว่า แผนขุดลอกแก้มลิงบึงระมาณ ไปทับที่ดินของชาวบ้าน ที่มีเอกสารสิทธิ น.ส.3 และ ส.ค.1 ซึ่งเทศบาลตำบลบึงระมาณ และชลประทาน กำลังดำเนินการขุดลอกทำแก้มลิง ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลนั้น
ล่าสุด วันนี้ (13 มี.ค.) นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า การขุดลอกแก้มลิงบึงระมาณ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เป็นแผนเร่งด่วนของรัฐบาลป้องกันน้ำท่วมที่ อ.บางระกำ รวมไปถึงขุดลอกพัฒนาบึงขี้แร้ง และบึงตระเคร็ง ตามแผนงบประมาณ 3 ปี 2555-2557 วงเงินง 339 ล้านบาท กักเก็บน้ำได้ 17 ล้าน ลบ.ม.โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศหาผู้รับเหมาก่อสร้าง
กรณีกลุ่มชาวบ้านบึงระมาณร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะชาวบ้านกังวลว่า การขุดลอกบึงระมาณ ไปกระทบกับที่ทำกินของชาวบ้าน ที่มีอยู่รอบๆ บึงนั้น เดิมทีแนวขอบเขตของบึงระมาณกว้างมากถึง 3,000 ไร่ แต่พื้นที่บึง ที่ชลประทานเตรียมขุดมีเพียง 1,800 ไร่ โดยจะมีพื้นที่ของชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิอยู่ติดกับแนวการขุดลอกประมาณ 2-3 ราย ขณะที่มีชาวบ้านปลูกเพิงพักในแนวขอบขุดลอกประมาณ 5 ราย ซึ่งมีการเจรจาและชาวบ้านก็ยินดีย้ายออกแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อความชัดเจนวันที่ 16 มี.ค.55 ที่ดินจังหวัดพิษณุโลก จะส่งเจ้าหน้าที่รังวัดลงไปสำรวจแนวเขตที่จะทำการขุดลอกเนื้อที่ 1,800 ไร่ ให้ชัดเจน พร้อมสำรวจอีกว่า มีพื้นที่ใดเป็นเอกสารสิทธิของชาวบ้านในแนวเขตนี้หรือไม่ โดยจะใช้ระยะเวลาการสำรวจประมาณ 22 วัน เมื่อสำรวจอย่างแน่ชัดแล้วจะมาพิจารณาว่ามีรายใดได้รับผลกระทบอย่างไร และจังหวัดมีวิธีการแก้ไขต่อไป
“แต่ชลประทานได้รับนโยบายจากรัฐบาล ให้เร่งรัดการขุดลอกบึงระมาณให้แล้วเสร็จ ปี 2556”
สำหรับภาพรวมโครงการพื้นที่รับน้ำแก้มลิง พิษณุโลก แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก ขุดลอกและพัฒนาแก้มลิง 3 แห่ง คือ บึงระมาณ บึงตระเคร็ง และบึงขี้แร้ง เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางธรรมชาติ และป้องกัน-แก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะยาว
ส่วนที่สอง งบประมาณ 20 ล้านบาท แก้ปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วน คือ ขุดลอกคลองทางธรรมชาติ คือ คลองกล่ำ-คลองเกตุ หมู่ 9 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เพื่อระบายน้ำฝั่งซ้ายของแม่น้ำยม และเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง
กรณีพื้นที่ไร่นา ซึ่งน้ำไหลบ่า หรือท่วมประจำ อาจเรียกได้ว่า พื้นที่หน่วงน้ำ ของพิษณุโลก จัดอยู่ประเภทที่ 5 ของพื้นที่รับน้ำ คาดว่า จะมีการชดเชยไร่ละ 500-1,000 บาทต่อไร่ ซึ่งประเมินแล้ว มีพื้นที่ 4 อำเภอ ที่ถือว่า เป็นพื้นที่หน่วงน้ำ ป้องกันน้ำไหลไปสู่ภาคกลางให้น้อยและนานที่สุด คือ อำเภอพรหมพิราม มีพื้นที่หน่วงน้ำ จำนวน 65,624 ไร่ ,อ.บางระกำ มีพื้นที่หน่วงน้ำ จำนวน 81,846 ไร่ ,อ.เมือง มีพื้นที่หน่วงน้ำ จำนวน 24,314 ไร่ และ อ.บางกระทุ่ม มีพื้นที่หน่วงน้ำ จำนวน 64,000 ไร่ รวมทั้งสิ้น 4 อำเภอ มีพื้นที่ 235,784 ไร่ ส่วนราษฎรทั้ง 4อำเภอที่ได้รับผลกระทบจังหวัดกำลังอยู่ในการสำรวจ
“พิษณุโลก ไม่เหมือนแก้มลิงภาคกลาง ที่รับน้ำเข้าแล้วมีประตูเปิดปิด แต่ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่หน่วงน้ำ รับน้ำมาแล้ว ต้องหน่วงไว้ให้นานที่สุด เพื่อให้ภาคกลางไม่ให้มีน้ำมาก หรือท่วมเหมือนปีที่ผ่านมา โครงการนี้ไม่แน่ใจว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้หรือไม่ เนื่องจากฤดูฝนก็ใกล้เข้ามาแล้ว การดำเนินการก่อสร้าง และสำรวจพื้นที่ยังไม่เสร็จเป็นที่เรียบร้อย แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในปีต่อไป”
