xs
xsm
sm
md
lg

ม.ราชภัฏกาฬสินธุ์ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง สร้างอาชีพช่วงหน้าแล้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ดร.ธวัชวงศ์ชัย ไตรทิพย์ หน.กลุ่มงานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎกาฬสินธุ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรพอเพียงของเกษตรกรบ้านหนองแวง ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่ดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเป็นรูปธรรม สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงหน้าแล้งได้เป็นอย่างดี
กาฬสินธุ์ - มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ เร่งขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หวังสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชาวบ้านในช่วงหน้าแล้ง ป้องกันการอพยพแรงงานเข้าเมืองกรุง

วันนี้ (6 มี.ค.) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ดร.ธวัชวงศ์ชัย ไตรทิพย์ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรพอเพียงของ นายผาสุก บุญรอด และ นายจรูญ ฉายประดิษฐ์ เกษตรกรบ้านหนองแวง ตำบลหนองแวง อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์

ทั้งสองคนถือเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่ดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ และดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการเกษตรอย่างเป็นรูปธรรม จนสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้เลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ดร.ธวัชวงศ์ชัย ไตรทิพย์ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ กล่าวว่าเกษตรกรและแปลงสาธิตเศรษฐกิจพอเพียงดังกล่าว เป็นเครือข่ายเกษตรกรที่ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฎกาฬสินธุ์ ในด้านวิชาการและอื่นๆ จนสามารถดำเนินการเป็นรูปธรรม สร้างงาน สร้างอาชีพ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้และทักษะการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง

นอกจากจะทำให้ชาวบ้านมีรายได้เลี้ยงครอบครัวโดยไม่เดือดร้อนแล้ว เกษตรกรทั่วไปยังสามารถเข้าไปนำเอาหลักแนวคิดและวิธีการไปใช้ เพื่อไปปฏิบัติให้เกิดเป็นอาชีพในช่วงว่างเว้นฤดูกาลทำนา โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งเป็นการป้องกันแรงงานอพยพเข้าไปขายแรงงานในเมืองกรุงอีกด้วย

สำหรับแปลงเกษตรดังกล่าวมีการสาธิตเกษตรพอเพียง เป็นสถานที่ถ่ายทอดความรู้ต่างๆทั้งด้านการปลูกพืชผสมผสาน พืชผักสวนครัว การทำเกษตรอินทรีย์ การเลี้ยงสัตว์แบบธรรมชาติ การสาธิตการปลูกข้าว (นาโยน, นาโหย) ซึ่งสามารถสร้างอาชีพ และรายได้เลี้ยงครอบครัวของเกษตร ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์จะนำแนวคิดดังกล่าวไปขยายผลสู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อื่นต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น