จันทบุรี-ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีร่วมมือกับผู้ว่ากรุงไพลิน ประเทศกัมพูชา ระดมกำลังกว่า 800 นาย กวาดล้างยาเสพติดบริเวณชายแดน ตามนโยบายของรัฐบาลพบผู้กระทำผิด 12 ราย พร้อมอาวุธสงครามและยาเสพติดจำนวนหนึ่ง
เช้ามืดวันนี้ (5 มี.ค.) นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย พลเอก อิ เชียร ผู้ว่าราชการกรุงไพลินประเทศกัมพูชา ได้ร่วมมือกันระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน ตำรวจตระเวนชายแดนและเจ้าหน้าที่จากประเทศกัมพูชา ออกกวาดล้างยาเสพติดบริเวณชายแดนจังหวัดจันทบุรี
โดยแบ่งชุดออกปฏิบัติการแบบสายฟ้าแลบในจุดเป้าหมาย 25 จุด โดยเฉพาะที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด และจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ซึ่งได้มีการตรวจค้นบ้านพัก ร้านค้า รวมทั้งแรงงานต่างด้าวที่เดินทางมาทำงานในประเทศไทย
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การตรวจค้นในครั้งนี้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์รวมพลังแผ่นดินกวาดล้างยาเสพติดของจังหวัดตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติด และอาชญากรรม
ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดจันทบุรี ยังมีการตรวจพบการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าทางชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะยาบ้า และยาไอซ์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทั้งของไทยและกัมพูชา มีความร่วมมือที่ดีในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ในการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดที่แอบลักลอบนำเข้าและขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบหาข่าว แหล่งพักยาบริเวณตะเข็บชายแดน หากมีข้อมูลที่ชัดเจนจะมีการสนธิกำลังเข้ากวาดล้างอย่างเร่งด่วน
โดย พลเอก อิ เชียร ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชายืนยันความร่วมมือที่ดีของจังหวัดบ้านพี่เมืองน้อง ที่มีมานาน ทั้งด้านวัฒนธรรม การค้า ข่าวสาร ความมั่นคง และจะคงรักษาความร่วมมือที่ดีเช่นนี้ไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกัมพูชาเองก็จับตาเป็นพิเศษเรื่องยาเสพติดที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ
และจากการกวาดล้างในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายได้ทั้งสิ้น 12 ราย เป็นคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง 1 ราย เสพยาเสพติด 7 ราย คดีเกี่ยวกับอาวุธสงคราม 4 ราย ซึ่งอาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย ลูกระเบิดสังหาร ชนิด M 67 จำนวน 1 ลูก กระสุนปืนอาก้า 231 นัด กระสุนลูกซองยาว เบอร์ 12 จำนวน 12 นัด ปืนแก๊ป/ปืนอัดลม 5 กระบอก และซองบรรจุกระสุนอาก้า 1 ซอง จึงตรวจยึดไว้และส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เช้ามืดวันนี้ (5 มี.ค.) นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย พลเอก อิ เชียร ผู้ว่าราชการกรุงไพลินประเทศกัมพูชา ได้ร่วมมือกันระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน ตำรวจตระเวนชายแดนและเจ้าหน้าที่จากประเทศกัมพูชา ออกกวาดล้างยาเสพติดบริเวณชายแดนจังหวัดจันทบุรี
โดยแบ่งชุดออกปฏิบัติการแบบสายฟ้าแลบในจุดเป้าหมาย 25 จุด โดยเฉพาะที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด และจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ซึ่งได้มีการตรวจค้นบ้านพัก ร้านค้า รวมทั้งแรงงานต่างด้าวที่เดินทางมาทำงานในประเทศไทย
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การตรวจค้นในครั้งนี้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์รวมพลังแผ่นดินกวาดล้างยาเสพติดของจังหวัดตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติด และอาชญากรรม
ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดจันทบุรี ยังมีการตรวจพบการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าทางชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะยาบ้า และยาไอซ์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทั้งของไทยและกัมพูชา มีความร่วมมือที่ดีในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ในการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดที่แอบลักลอบนำเข้าและขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบหาข่าว แหล่งพักยาบริเวณตะเข็บชายแดน หากมีข้อมูลที่ชัดเจนจะมีการสนธิกำลังเข้ากวาดล้างอย่างเร่งด่วน
โดย พลเอก อิ เชียร ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชายืนยันความร่วมมือที่ดีของจังหวัดบ้านพี่เมืองน้อง ที่มีมานาน ทั้งด้านวัฒนธรรม การค้า ข่าวสาร ความมั่นคง และจะคงรักษาความร่วมมือที่ดีเช่นนี้ไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกัมพูชาเองก็จับตาเป็นพิเศษเรื่องยาเสพติดที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ
และจากการกวาดล้างในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายได้ทั้งสิ้น 12 ราย เป็นคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง 1 ราย เสพยาเสพติด 7 ราย คดีเกี่ยวกับอาวุธสงคราม 4 ราย ซึ่งอาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย ลูกระเบิดสังหาร ชนิด M 67 จำนวน 1 ลูก กระสุนปืนอาก้า 231 นัด กระสุนลูกซองยาว เบอร์ 12 จำนวน 12 นัด ปืนแก๊ป/ปืนอัดลม 5 กระบอก และซองบรรจุกระสุนอาก้า 1 ซอง จึงตรวจยึดไว้และส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
