xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ตากสั่งเข้ม ส่งรถดับเพลิงประจำ 3 ศูนย์อพยพ ป้องกันเหตุเพลิงไหม้ซ้ำอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตาก- ผู้ว่าฯ ตากสั่งดูแลศูนย์อพยพเข้มหลังไฟไหม้ซ้ำ ย้ำให้เตรียมรถดับเพลิงเข้าประจำการให้ครบทั้ง 3 ศูนย์ พร้อมขอบคุณพม่าส่งเงินช่วยเหยื่อไฟไหม้ 3 ล้านข้าวสาร 100 กระสอบ

วันนี้ (5 มี.ค.) มีรายงานว่า นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ศูนย์อพยพชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่าที่หนีภัยจากการสู้รบ บ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ จ.ตาก หลังจากที่วานนี้ (4 มี.ค.) ได้เกิดเพลิงไหม้อีกครั้งในศูนย์อพยพ บริเวณโซน B หมู่ที่ 12 ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงในศูนย์อพยพต้องช่วยกันดับไฟ โดยพบว่าไฟไหม้มาจากบ้านหลังหนึ่ง ที่จุดเทียนไขทิ้งไว้จนหมด และเกิดไฟลุกไหม้ภายในบ้าน ทำให้ผู้อพยพต่างแตกตื่น และไปช่วยกันดับไฟ จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยไม่ลุกลามไปยังบ้านหลังอื่นๆ

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้สั่งการให้นายสุดเขต วงศ์สุวรรณ ปลัดอำเภอ หัวหน้าศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยม ให้สอบสวนข้อเท็จจริงเหตุไฟไหม้ทั้ง 2 ครั้ง พร้อมให้วางมาตรการเข้มในการดูแลศูนย์อพยพ อย่าให้มีเหตุเพลิงไหม้ขึ้นมาอีก รวมทั้งนำเต็นท์และผ้าใบไปทำทำที่พักชั่วคราวให้แก่ผู้อพยพ

นายสุริยะกล่าวว่า ศูนย์อพยพทั้ง 3 ศูนย์ ประกอบด้วย ศูนย์อพยพบ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง ศูนย์อพยพบ้านนุโพ อ.อุ้มผาง และศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยม ปลูกบ้านพักอยู่ด้วยความแออัดบ้านทุกหลังปลูกสร้างด้วยไม่ไผ่และหลังคามุงด้วยใบจาก ทำให้ติดเชื้อเพลิงได้ง่าย จึงได้สั่งการทุกศูนย์อพยพดูแลการหุงหาอาหารและระวังไฟป่าที่เกิดใกล้ศูนย์ เนื่องจากมีไฟไหม้ป่ารอบบริเวณบ่อยครั้ง รวมทั้งให้นำรถดับเพลิงจาก อบต.มาเตรียมไว้ให้ครบทุกศูนย์ และให้วางเวรยามตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง เพราะช่วงนี้มีเหตุไฟไหม้ป่ามากอาจเกิดสะเก็ดไปปลิวใส่จะสร้างความเสียหาย

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากยังกล่าวขอบคุณรัฐบาลพม่าที่ได้มีการส่งเงินมาช่วยเหลือจำนวน 3 ล้านจั๊ต และข้าวสารอีก 100 กระสอบ นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่พม่าเริ่มจะเหลียวแลคนของตัวเองมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีในการที่จะส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศในอนาคต และเป็นครั้งแรกที่พม่าช่วยเหลือผู้อพยพตามหลักสิทธิมนุษยชนกับชาวกะเหรี่ยง

ส่วนสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดตากยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะเมืองชายแดนแม่สอด ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ขณะนี้ยอดนักท่องเที่ยวหดหายไปกว่าครึ่ง เชิงสะพานมิตรภาพไทยพม่าด้านตลาดริมเมย อ.แม่สอด เงียบเหงา ร้านค้าที่มีกว่า 300 ร้าน มีผู้คนจับจ่ายซื้อสินค้าของฝาก น้อยลง เพราะนักท่องเที่ยวของไทยเปลี่ยนแผนไปเที่ยวสถานที่อื่นหมด รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวพม่าก็ลดลงจำนวนมาก เพราะหวั่นผลกระทบจากมลพิษทางอากาศที่มีสูงมาก สายการบินต้องเลื่อนเวลาขึ้นลงจากช่วงเช้ามาเป็นช่วงเย็นเพื่อรอให้หมอกควันจางลง ทำให้นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ใช้การเดินทางทางเครื่องบินก็ลดน้อยลงเช่นกันเพราะไม่มั่นใจว่าเครื่องจะลงได้หรือไม่ได้ จากปกติที่เที่ยวบินเต็มทุกวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น