นครพนม - สลดเด็กชาย ม.1 ฉลองสอบเสร็จ ลงเล่นน้ำโขงที่จ.นครพนม ถูกบ่อทรายดูดกลางลำน้ำโขงกลายเป็นศพ ขณะที่เพื่อนไปช่วยสำลักน้ำ แพทย์ยื้อชีวิตทัน ชาวบ้านลืออาถรรพ์มีเด็กเสียชีวิตที่จุดดังกล่าวทุกปี
วันนี้ (2 มี.ค.55) ร.ต.ท.วันชัย ศรีชัยปลูก ร้อยเวร สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุเด็กนักเรียนจมน้ำ รุดไปที่หาดทรายทองศรีโคตรบูรณ์ (ท้ายเมือง) ด้านหลังสำนักงานตำรวจท่องเที่ยว ริมฝั่งโขง อ.เมืองนครพนม จึงประสานนักประดาน้ำทหารเรือ นรข. พบกลุ่มเพื่อนนักเรียนและชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ระบุถึงอาถรรพ์ของแม่น้ำโขง โดยบริเวณจุดเกิดเหตุห่างจากฝั่ง 200 เมตร
เจ้าหน้าที่ได้ระดมงมร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายทราบชื่อ ด.ช.จิรภัทร แก้วกิ่ง หรือ “น้องอิคคิว” อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1/7 ร.ร.ปิยะมหาราชาลัย ที่พลัดจมน้ำสูญหายไปใช้เวลานาน 1 ชั่วโมง จึงกู้ศพขึ้นมาได้ สอบสวนทราบว่า น้องอิคคิวพร้อมกลุ่มเพื่อนสอบเสร็จวันสุดท้าย ได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนชายหญิงร่วมห้อง 20 คน ลงเล่นน้ำก่อนพลัดตกร่องน้ำลึก ถูกกระแสน้ำพัดหายไป
ส่วน ด.ช.นันทรินทร์ เพื่อนร่วมชั้นไปช่วยจมสำลักน้ำ ถูกนำตัวส่ง ร.พ.นครพนม รอดชีวิตพร้อมเพื่อนหญิงอีก 1 คน โดยนางจีรัญญา กิ่งแก้ว วัย 40 ปี มารดาน้องอิคคิว รีบวิ่งมาสวมกอดลูกชายร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุหลังบุตรชายสอบเสร็จ ได้กลับมาบ้านขอเงิน 200 บาท บอกว่าจะไปกินหมูกระทะฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆ
ก่อนเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่าจมน้ำเสียชีวิตแล้ว จึงนำธูปเทียนจุด พร้อมแต่งขันห้าขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พบศพบุตรชายโดยเร็ว โดยนายสม อายุ 56 ปี อาชีพรับจ้างเช่าห่วงยาง กล่าวว่า เห็นกลุ่มนักเรียนมาเล่นน้ำกว่า 20 คน แต่เช่าห่วงยางไม่ถึง 5 ห่วง บริเวณที่เด็กจมน้ำเป็นร่องน้ำลึกคล้ายแอ่งกะทะ ทุกปีจะมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตตรงจุดนี้ตลอด ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน ร่ำลือกันว่าอาจจะเป็นอาถรรพ์ของแม่น้ำโขง ที่ต้องการเด็กวัย 13 ปี ไปอยู่ด้วยในวังใต้บาดาล
ด้าน พ.ต.อ.พงศ์ศิริ เพ็ชรหว้าโง๊ะ ผกก.สภ.เมืองนครพนม กล่าวว่า จากการสอบถามนักวิชาการประมง ระบุว่าจุดที่เด็กจมน้ำเสียชีวิต คาดว่าเป็นแอ่งคล้ายกะทะ สาเหตุเกิดจากตะกอนทรายไหลมาทับถมและแรงกัดเซาะโดยธรรมชาติ ใต้พื้นทรายมีแรงดันอากาศ เมื่อเด็กเดินไปเหยียบทรายจะยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว คล้ายถูกทรายดูด อีกทั้งข้อมูลของนักวิชาการยังระบุด้วยว่า จุดดังกล่าวคาดว่าจะมีปลาชนิดหนึ่ง มาคุ้ยขุดหลุมเป็นวังอาศัย เพื่อหลบกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว จึงเกิดเหตุสลดขึ้นทุกปี
พ.ต.อ.พงศ์ศิริ กล่าวต่อว่า ปีนี้น้ำโขงลดลงเร็วกว่าปกติ ทุกปีจะมีแผนป้องกันภัยทางน้ำ โดยทางหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) และ อปพร.เทศบาลเมืองนครพนม จะปักแนวเขตบริเวณดังกล่าวเป็นธงสีแดงเพื่อเตือนภัยเป็นพื้นที่อันตราย จึงขอฝากเตือนผู้ปกครองได้ฝากบุตรหลานอย่าให้ลงเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าวเด็ดขาด