ศูนย์ข่าวศรีราชา - ระทึก! หนุ่มเมาน้อยใจแม่ไม่ยอมบอกเบอร์โทรศัพท์เพื่อน อาละวาดเผาทรัพย์สิน คว้าถังแก๊สเปิดวาล์วขู่ขังตัวเองอยู่บนชั้น 2 ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ตำรวจช่วยกันเกลี้ยกล่อม สุดท้ายยอมจำนนก่อนก้มกราบเท้ามารดา
วันนี้ (2 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รุดไปตรวจสอบเหตุชายไทยคลุ้มคลั่งนำถังแก๊สมาเปิดวาล์วแล้วขังตัวเองอยู่บนชั้น 2 ของร้านขายอาหารตามสั่งไม่มีชื่อ เลขที่ 440/52 ซอย 14 ถ.พัทยา-นาเกลือ หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ในที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น บริเวณชั้น 2 พบว่ามีประตูเหล็กปิดกั้นทางขึ้นบันไดและถูกล็อคอย่างแน่นหนา ส่วนตรงบันไดพบชายวัยรุ่น ทราบชื่อนายชานุ ประสิทธิ์ อายุ 28 ปีลูกชายเจ้าของร้าน นั่งอยู่ในสภาพมึนเมาสุรา ในมือถือไฟแช็กอยู่ 1 อันข้างตัวโดยมีถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัมวางอยู่
เบื้องต้นพบว่าเจ้าตัวได้เปิดวาล์วแก๊สและนำไฟแช็กมาจ่อขู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันพูดจาเกลี้ยกล่อม จนเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที นายชานุจึงยอมทิ้งไฟแช็กและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์ โดยนายชานุได้ก้มลงกราบขอโทษนางลัดดา สิทธิศักดิ์ อายุ 47 ปี ผู้เป็นมารดา ตรวจสอบในห้องพักบนชั้น 2 พบว่านายชานุได้เผาตู้ลำโพงเครื่องเสียงจนได้รับความเสียหายไป 1 คู่
สอบถามนางลัดดาทราบว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้มาขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อนคนหนึ่งที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือของตน แต่เนื่องจากได้ลบทิ้งไปแล้วจึงบอกว่าไม่มี ทำให้ลูกชายเกิดความน้อยใจว่าพยายามปกปิดและไม่ยอมให้ติดต่อเพื่อนๆ ประกอบกับความมึนเมาสุรา จึงวิ่งไปคว้าถังแก๊สแล้วขังตัวเองอยู่บนชั้น 2 ก่อนลงมือเผาตู้ลำโพงจนได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งเปิดวาล์วถังแก๊สขู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ ร้อนถึงตำรวจต้องมาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมดังกล่าว
ต่อมาตำรวจคุมตัวนายชานุไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายแต่ไม่พบ ภายหลังจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไป
วันนี้ (2 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รุดไปตรวจสอบเหตุชายไทยคลุ้มคลั่งนำถังแก๊สมาเปิดวาล์วแล้วขังตัวเองอยู่บนชั้น 2 ของร้านขายอาหารตามสั่งไม่มีชื่อ เลขที่ 440/52 ซอย 14 ถ.พัทยา-นาเกลือ หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ในที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น บริเวณชั้น 2 พบว่ามีประตูเหล็กปิดกั้นทางขึ้นบันไดและถูกล็อคอย่างแน่นหนา ส่วนตรงบันไดพบชายวัยรุ่น ทราบชื่อนายชานุ ประสิทธิ์ อายุ 28 ปีลูกชายเจ้าของร้าน นั่งอยู่ในสภาพมึนเมาสุรา ในมือถือไฟแช็กอยู่ 1 อันข้างตัวโดยมีถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัมวางอยู่
เบื้องต้นพบว่าเจ้าตัวได้เปิดวาล์วแก๊สและนำไฟแช็กมาจ่อขู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันพูดจาเกลี้ยกล่อม จนเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที นายชานุจึงยอมทิ้งไฟแช็กและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์ โดยนายชานุได้ก้มลงกราบขอโทษนางลัดดา สิทธิศักดิ์ อายุ 47 ปี ผู้เป็นมารดา ตรวจสอบในห้องพักบนชั้น 2 พบว่านายชานุได้เผาตู้ลำโพงเครื่องเสียงจนได้รับความเสียหายไป 1 คู่
สอบถามนางลัดดาทราบว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้มาขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อนคนหนึ่งที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือของตน แต่เนื่องจากได้ลบทิ้งไปแล้วจึงบอกว่าไม่มี ทำให้ลูกชายเกิดความน้อยใจว่าพยายามปกปิดและไม่ยอมให้ติดต่อเพื่อนๆ ประกอบกับความมึนเมาสุรา จึงวิ่งไปคว้าถังแก๊สแล้วขังตัวเองอยู่บนชั้น 2 ก่อนลงมือเผาตู้ลำโพงจนได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งเปิดวาล์วถังแก๊สขู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ ร้อนถึงตำรวจต้องมาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมดังกล่าว
ต่อมาตำรวจคุมตัวนายชานุไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายแต่ไม่พบ ภายหลังจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไป
