ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออก (DSI) ลุยจับโกดังและร้านค้ากลางเมืองพัทยาพบลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์รายใหญ่ ยึดของกลางรวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท แก้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวระดับประเทศ หลังไทยถูกเพ่งเล็งจากนานาชาติว่าเป็นแหล่งลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อันดับต้นๆ ของโลก
ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา (29 ก.พ.) นายประวิทย์ ไชยบัวแดง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นำกำลังเข้าตรวจสอบโกดังและร้านค้าเป้าหมายจำนวน 5 จุด ภายในศูนย์การค้าเคมาร์เก็ต ย่านพัทยาใต้ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์รายใหญ่ในพื้นที่เขตเมืองท่องเที่ยว
จากการตรวจสอบพบว่า ทางร้านมีการจัดหน้าร้านเป็นลักษณะแกลอรีแสดงภาพวาด และงานศิลปะ แต่หลังภาพวาดมีประตูปิดล็อกอย่างแน่นหนา เมื่อเปิดเข้าไปพบเป็นห้องลับภายในอีกหลายห้อง มีสินค้า เช่น นาฬิกาข้อมือ และกระเป๋าสะพายละเมิดลิขสิทธิ์ยี่ห้อดัง ทั้งกุชชี่, หลุยส์วิตตอง, ชาเนล และอื่นๆ รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท จัดแสดงไว้อย่างเป็นระเบียบ จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวพนักงานที่คอยดูแลสินค้าเป็นหญิงจำนวน 5 คน มาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม
นายประวิทย์เผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยถูกเพ่งเล็งจากนานาชาติว่าเป็นแหล่งลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ลำดับต้นๆ ของโลก ทำให้ประเทศไทยได้รับความเสื่อมเสีย ทาง DSI จึงดำเนินการสืบสวนหาข่าวจนทราบข้อมูลว่ามีกลุ่มนายทุนชาวไทยและต่างชาติสั่งสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์จากประเทศจีน และกัมพูชาเป็นจำนวนมาก แล้วนำมาเก็บซุกซ่อนไว้ในพื้นที่เมืองพัทยา ก่อนจัดเป็นห้องแสดงสินค้าลับตบตาเจ้าหน้าที่ จนทาง DSI ได้ข้อมูลและทำการตรวจสอบจนสามารถยึดของกลางจำนวนมากไว้ได้