xs
xsm
sm
md
lg

หอบหลักฐานแจ้ง กกต.พิษณุโลก เลือกตั้งนายกบางระกำ มีซื้อเสียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - คนแฉ “บางระกำโมเดล” หอบหลักฐาน ร้อง กกต.พิษณุโลก คนบางระกำรับ 500 จูงใจเลือกตั้ง “นายกเทศมนตรีเมืองใหม่บางระกำ” เหตุผู้ชนะมีคะแนนห่างผู้แพ้แค่ 22 แต้ม

รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า หลังจากที่มีการยกฐานะ อบต.หัวรอ, อบต.บางระกำ จ.พิษณุโลก ขึ้นเป็นเทศบาลตำบล และได้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลบางระกำเมืองใหม่ ไปเมื่อ 26 ก.พ.55 ที่ผ่านมา จนผลการเลือกตั้งออกมา ปรากฏว่า นายเกษม ตั้งเกษมวิบูลย์ (เบอร์ 1) ได้รับการเลือกตั้ง 3,101 คะแนน, อันดับสอง คือ นายชริน ด้วงบ้านยาง (เบอร์ 3) ได้รับการเลือกตั้ง 3,079 คะแนน ซึ่งแพ้ นายเกษม ตั้งเกษมวิบูลย์ จำนวน 22 คะแนนเท่านั้น

ล่าสุด วันนี้ (29 ก.พ.) นายวิรัตน์ แดงซิว ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางระกำ (เบอร์ 2) ได้เดินทางมายื่นหนังสือแจ้งการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ที่ กกต.จว.พิษณุโลก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ร้องเรียนเรื่องการใส่เสื้อคลุมของทีมหาเสียงหมายเลข 1 ที่มีชื่อและหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้งขึ้นทอดผ้าบนเมรุ ที่วัดเก้ารัง การแจกเงินซื้อเสียงของผู้สมัครหมายเลข 1 และเรื่องแผ่นประกาศแนะนำตัวมีขนาดใหญ่กว่ากำหนด โดยมีนายสดุดี ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ผอ.กกต.จว.พิษณุโลก รับเรื่องและแจ้งว่าจะดำเนินการสืบสวนให้

หนังสือร้องเรียนของ นายวิรัตน์ กล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.55 ที่ผ่านมา นายวิบูลย์ ตั้งเกษมวิบูลย์ ผู้สมัครนายกเทศบาลบางระกำเมืองใหม่ เบอร์ 1 ได้ไปร่วมงานฌาปนกิจศพนายอ่อน เพชรดี ที่วัดเก้ารัง บ้านเก้ารัง ม.9 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มี นายมารุต จงแจ้ง ผู้สมัคร สท.เขต 2 เบอร์ 10 ซึ่งเป็นทีมงานของนายวิบูลย์ ไปร่วมงานศพด้วย โดยใส่เสื้อคลุมด้านหน้าและด้านหลังมีหมายเลขและชื่อผู้สมัครเบอร์ 1 ซึ่งกรกระทำเช่นนี้ เป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

นายวิรัตน์ ยังกล่าวหาอีกว่า นายวิบูลย์ ตั้งเกษมวิบูลย์ ผู้สมัครนายกเทศบาลบางระกำเมืองใหม่ เบอร์ 1 ได้แจกเงินผู้มีสิทธิเลือกตั้งแก่ นาย...(ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ท้องที่ หมู่ 12 บ้านหนองเขาควาย จำนวน 500 บาท และนาย...(ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ท้องที่ หมู่ 11 จำนวน 300 บาท และนาย...(ขอสงวนชื่อและนามสกุล) บ้านคลองวัดไร่ หมู่ 4 จำนวน 500 บาท โดยมีพยานรู้เห็นในการแจกเงินครั้งนี้ด้วย

ท้ายเรื่องร้องเรียนยังมีหมายเหตุอีกว่า บุคคลดังกล่าวข้างต้นพร้อมพยานบุคคล ไม่กล้านำเงินมาคืนให้ กกต.เพราะกลัวเจ้าหน้าที่ และกลัวตำรวจจับกุม

นอกจากนี้ นายวิรัตน์ แดงซิว ยังได้กล่าวหา นายวิบูลย์ ตั้งเกษมวิบูลย์ เกี่ยวกับแผ่นประกาศแนะนำตัว ที่มีขนาดใหญ่กว่าที่กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่หน้าร้านศรีเพ็ญภัณฑ์ ในตลาดบางระกำ พร้อมระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมายและเอาเปรียบคู่แข่งอย่างชัดเจน

สำหรับเอกสารหลักฐานที่ นายวิรัตน์ แดงซิว ที่นำมามอบให้กับ ผอ.กกต.มีเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับข้อร้องเรียนจำนวน 3 แผ่น พร้อมสำเนาเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนเซ็นสำเนาถูกต้องยืนยัน และภาพถ่ายที่ นายมารุต จงแจ้ง ผู้สมัคร ส.ท.เขต 2 เบอร์ 10 และภาพถ่ายป้ายหาเสียงของ นายวิบูลย์ ตั้งเกษมวิบูลย์ ผู้สมัครนายกเทศบาลบางระกำเมืองใหม่ เบอร์ 1 เพื่อให้กกต.จังหัวพิษณุโลกตรวจสอบด้วย

อย่างไรก็ตาม นายวิรัตน์ แดงซิว อายุ 50 ปี ได้ชื่อว่าเป็นคนที่ออกมาร้องเรียนเรื่องราวต่างๆ ที่เห็นว่าไม่ชอบมาพากล หรือชวนสงสัยหลายครั้ง และครั้งล่าสุด ก็เป็นคนแรกที่กล้าพาชาว ต.บางระกำแ ละ ต.ชุมแสงสงคราม ร้องนายอำเภอบางระกำ ณ.ศูนย์บางระกำโมเดล (เมื่อ 27 ก.ย.)

กรณีผู้ใหญ่บ้านเรียกเก็บเงินค่าชดเชยน้ำท่วมนา รายละ 2 ไร่ หรือ 4,400-30,000 บาท จนคำว่า “บางระกำโมเดล” เป็นข่าวครึกโครม กระทั่งมีคำสั่งปลดผู้ใหญ่บ้านพ้นตำแหน่งไปแล้ว 3 ราย



กำลังโหลดความคิดเห็น