ชาวกาฬสินธุ์ชวนเที่ยวถ้ำพญางูจงอางกลางเขาดงมูล

กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านในเขาดงมูล อดีตพื้นที่คอมมิวนิสต์ ชวนเที่ยวถ้ำพญางูจงอาง บนภูคำแคนกลางป่าสงวนดงมูล อ.หนองกุงศรี กาฬสินธุ์ เผยมีประติมากรรมธรรมชาติ ลักษณะเป็นปล่องกว้างขนาดใหญ่เหมือนงูจงอางแผ่พังพาน ชาวบ้านเชื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ละปีมีผู้ขึ้นไปกราบไว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลจำนวนมาก

วันนี้ (27 ก.พ.) เวลา 09.00 น.ที่ภูคำแคน เขตป่าสงวนแห่งชาติดงมูล บ้านนาคำน้อย หมู่ 1 ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ นายเสถียร ตรีสอน ผู้ใหญ่บ้านนาคำน้อย ได้นำสื่อมวลชนและชาวบ้านจำนวนหนึ่งขึ้นสำรวจบริเวณภูคำแคน ซึ่งเป็นภูเขาลูกเล็กๆ รายล้อมด้วยไร่อ้อยและมันสำปะหลัง ห่างจากหมู่บ้านกว่า 6 กิโลเมตร ซึ่งในการเดินทางจะต้องเดินเท้าไต่เขาที่ลาดชันขึ้นไปเพื่อเดินทางไปยังถ้ำพญางูจงอาง สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของชาวบ้าน

นายเสถียร ตรีสอน ผู้ใหญ่บ้านนาคำน้อย เล่าว่า หลังจากได้รับแจ้งจากพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งธุดงค์มาปักกลดบนภูคำแคน แล้วได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์บนภูเขาลูกนี้ โดยมีลักษณะเหมือนพญางูจงอางขนาดใหญ่ 3 ตัว จึงได้นำชาวบ้านมาพิสูจน์ข้อเท็จจริง กระทั่งได้พบกับสิ่งที่เหลือเชื่อ เป็นรูปร่างอย่างพญางูจงอาง จึงจุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาขอความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อ

ด้าน พระอาจารย์วัชรดุล อารยธัมโม กล่าวว่า ได้ธุดงค์รอนแรมมาเรื่อยๆ ตามป่าเขา พอถึงภูเขาลูกนี้เห็นทำเลดี มีต้นหมากรากไม้ร่มรื่นเขียวขจี ทั้งๆ ที่เป็นฤดูแล้ง เหมาะที่จะเป็นที่พำนักและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จึงได้บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ปักกลดบำเพ็ญเพียรภาวนา คืนแรกก็นิมิตเห็นรุกขเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา สำแดงตนต้อนรับด้วยความยินดี ก่อนที่จะมีเหล่าสัมภเวสี ยกทัพมาขับไล่ไสส่ง จึงต้องถอยร่นหนีจนเกือบจะพลัดตกเขา

แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีพญางูจงอางตัวขนาดใหญ่เท่าต้นตาล 3 ตัว โผล่ออกมาจากถ้ำพร้อมชูคอแผ่แม่เบี้ย ทำท่าฉกใส่และพุ่งทำร้ายพวกสัมภเวสีเหล่านั้น ทำให้พวกมันตื่นกลัวแล้วหายวับไปพร้อมกับพญางูจงอาง

“อาตมาสะดุ้งตื่นจากนิมิตและมานั่งพิจารณาว่าภาพที่เกิดในนิมิตนั้นไม่ธรรมดา เพราะในชีวิตธุดงค์รอนแรมมาหลายพรรษา ผ่านมาหลายโขดเขาลำเนาไพร ไม่เคยมีนิมิตประหลาดอย่างนี้มาก่อน จึงคิดว่าน่าจะเป็นลางอะไรสักอย่าง” พระอาจารย์วัชรดุลกล่าว และเล่าต่อว่า

พอรุ่งเช้าจึงมองสำรวจรอบๆ ตัว ก่อนที่จะได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ปรากฏอยู่เหนือหัว ทีแรกดูไม่ออกว่าเป็นอะไร เพราะมีเถาวัลย์ปกคลุม แต่เมื่อดูอย่างละเอียดถึงกับตะลึง เมื่อรู้ว่าเป็นปล่องถ้ำ ที่มีรูปร่างเหมือนพญางูจงอางแผ่แม่เบี้ย โดยที่ปากถ้ำเป็นส่วนของหัว กว้างขนาด 1 วา และปล่องถ้ำเป็นส่วนของลำตัวโตเท่าลำต้นตาลขนาดใหญ่ ที่ยาวเลื้อยเข้าไปในหลืบหินกว่า 10 เมตร

พระอาจารย์วัชรดุล กล่าวอีกว่า เมื่อเห็นปล่องถ้ำรูปลักษณ์แปลกประหลาดดังกล่าว และเมื่อนึกทบทวนความฝัน จึงสรุปว่ารุกขเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา คงอนุญาตให้ปักกลดบำเพ็ญศีลภาวนา และพญางูจงอางอาจจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่บนเขาลูกนี้ ก็จะแผ่บารมีค้ำจุน พอมีชาวบ้านเข้ามาหาของป่า จึงเล่าความเป็นไปให้ฟัง

และเมื่อเดินสำรวจพบว่ามีปล่องถ้ำรูปร่างคล้ายกันอีก 2 ปล่อง อยู่ห่างกันปล่องละ 10 เมตร ที่อาจจะเป็นพญางูจงอาง 3 ตัวพ่อแม่ลูกอย่างที่นิมิตเห็น กระทั่งมีการบอกกล่าวกันปากต่อปาก และแตกตื่นมากราบไหว้บูชาตามความเชื่อดังกล่าว

จากลักษณะปล่องถ้ำพญางูจงอาง ที่มีรูปร่างอย่างงูจงอางแผ่พังพานหรือแผ่แม่เบี้ยนั้น เท็จจริงจะเป็นประติมากรรมที่เกิดจากการกระทำของธรรมชาติ หรือเป็นรูปรอยของงูจงอางยักษ์ ขนาดมหึมา โตกว่าอนาคอนดาที่เคยเห็นในหนัง ที่ถูกทับถมจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกเมื่อร้อยล้านปีก่อน อย่างแผ่นดินไหวหรือกรณีใดก็ตามแต่ ที่เมื่อกาลเวลาผ่านไปทำให้ลำตัวของงูถูกย่อยสลาย ขณะที่ดินที่ถมร่างงูกลายเป็นหิน จึงเหลือรูปรอยเป็นรูปร่างงูจงอางอย่างที่ปรากฏในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ชาวบ้านได้เกิดความเชื่อศรัทธาว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และจะขออนุญาตจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดสร้างสำนักสงฆ์ถ้ำงูจงอางโพธิญาณพัฒนาจิต เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำภูคำแคนกลางป่าสงวนดงมูลต่อไป