xs
xsm
sm
md
lg

แล้งฝนไม่ตกกบไม่ออกไข่ ไม่มีลูกอ๊อดขาย ต้องลงทุนเพิ่มขุนเป็นกบแทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาวะฝนแล้งอากาศร้อนกบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไม่ยอมผสมพันธุ์ออกไข่ทำให้ไม่มีลูกอ๊อดขายทั้งที่เป็นช่วงที่ขายได้ราคาแพง
สกลนคร - แล้งฝนไม่ตกกบไม่ออกไข่ เกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงกบโอดเสี่ยงขาดทุน เพราะไม่มีลูกอ๊อดขาย ทั้งที่อยู่ในช่วงราคาแพง ต้องยอมลงทุนเพิ่มซื้อหัวอาหารมาขุนเป็นตัวกบขาย

“ลูกอ๊อด” หรือภาษาอีสานเรียกว่า ฮวก เป็นลูกกบตัวอ่อนที่เกิดจากการผสมพันธุ์ ภายหลังกบวางไข่แล้ว ตัวอ่อนจะเติบโตมีหางเพื่อใช้แหวกว่ายในน้ำ แต่ถ้าตัวอ่อน หรือลูกอ๊อดมีขาโผล่ออกมาเป็นอวัยวะเมื่อไหร่ พร้อมกับหางหายไปเราถึงจะเรียกกันว่ากบ

ลูกอ๊อด จะนิยมรับประทานกันในภาคอีสานบางจังหวัด เช่น กาฬสินธุ์ อุดรธานี ขอนแก่น เลย สกลนคร และนครพนม บางอำเภอประกอบอาหารโดยนำไปหมก หรือต้มเป็นแกงอ่อม และส่วนหนึ่งนำไปเป็นเหยื่อที่ใส่เบ็ดตามลำน้ำ

นายประเสริฐ แวงวัน อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 8 บ้านอ่าง ต.ม่วงไข่ อ.พังโคน จ.สกลนคร เกษตรผู้เลี้ยงกบขายลูกอ๊อดตั้งแต่ปี 2542 เลี้ยงกบ แบบเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งการเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบ เพื่อผลิตตัวอ่อนหรือลูกอ๊อด ปัจจุบันมีกบพ่อพันธุ์ จำนวน 500 ตัว แม่พันธุ์ 200 ตัว โดยกบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เหล่านี้จะนำมาเลี้ยงไว้ที่ท่อซีเมนต์ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 45 ท่อ

แต่ละท่อจะมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปล่อยเลี้ยงประมาณ 50-60 ตัว ราคาลูกอ๊อดตกเฉลี่ยกิโลกรัมละ 120-180 บาท แต่หากขายในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ราคาจะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 180-250 บาท ก็มี แต่ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ราคาลดลงอยู่ที่กิโลกรัมละ 120-200 บาท

แต่ถ้าลูกอ๊อดขางอกขึ้นมาเป็นกบเมื่อไหร่ จะขายไม่ได้ราคา ก็ต้องคัดแยกมาไว้ในบ่อขุนกบหนุ่มสาวต่างหาก พอขุนกบได้อายุ 1 เดือน จะจับขายได้ ตกกิโลกรัมละ 80-100 บาท

ขณะนี้พบว่าอากาศร้อนจัดส่งผลให้กบไม่ไข่ไม่ผสมพันธุ์ แม้ว่าตนจะใช้สายยางฉีดเป็นละอองฝอยเพื่อหลอกว่าฝนตกก็ไม่เป็นผล ซึ่งถ้ากบไม่ไข่ก็จะไม่มีลูกอ๊อดผลิตออกจำหน่ายทำให้ตนประสบปัญหาขาดทุนที่ต้องลงทุนซื้อหัวอาหารวันละ 300-500 บาท มาเลี้ยงกบนับพันตัว ซึ่งต้องรอให้ฝนตกกบจึงจะไข่ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น