บุรีรัมย์ - เกษตรกรบุรีรัมย์แห่นำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำแล้วร่วม 3 แสนตัน มากกว่าครั้งที่ผ่านมาเท่าตัว เหตุราคาจูงใจ ขณะโรงสีที่เปิดรับจำนำนอกพื้นที่ทยอยปิดไปแล้ว 8 จุด ส่วนเกษตรกรที่ยังตกค้างเรียกร้องให้ขยายเวลารับจำนำ หวั่นเข้าร่วมโครงการไม่ทัน
วันนี้ (22 ก.พ.) นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผย ถึงความคืบหน้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ของรัฐบาลว่า ตั้งแต่เริ่มเปิดโครงการฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ได้มีเกษตรกรบุรีรัมย์สนใจนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งโรงสีในพื้นที่ และจุดรับจำนำนอกพื้นที่ 35 แห่งทั้งจังหวัด รวมจำนวน 75,738 ราย ปริมาณข้าวกว่า 296,000 ตัน ซึ่งมากกว่าการรับจำนำข้าวปี 2551/52 เท่าตัว โดยมียอดจำนำเพียง 150,000 ตัน
โดยสาเหตุที่ปีนี้มีเกษตรกรสนใจนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนมากนั้น เนื่องจากราคารับจำนำในโครงการจูงใจสูงถึงตันละ 20,000 บาท ต่างจากราคาซื้อขายในท้องตลาดที่รับซื้อเพียงตันละ 14,500-16,500 บาท
อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรในบางพื้นที่ที่ยังตกค้าง ไม่ได้นำผลผลิตข้าวมาเข้าร่วมโครงการฯได้เรียกร้องให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาขยายระยะเวลาการรับจำนำออกไปอีก 1 2 เดือน เพราะเกรงว่าจะเข้าร่วมโครงการไม่ทัน เนื่องจากเหลือเวลารับจำนำอีกเพียงกว่า 1 สัปดาห์เท่านั้นก็จะสิ้นสุดโครงการฯ
นายสุทธิศักดิ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีโรงสีทั้งในจังหวัดภาคกลาง และภาคอีสาน ที่มาเปิดจุดรับจำนำข้าวนอกพื้นที่ ตามอำเภอที่ไม่มีโรงสีหรือโรงสีไม่เพียงพอ ได้ทยอยปิดจุดรับจำนำไปแล้ว 8 จุด จากที่มีจุดนอกพื้นที่ทั้งหมด 15 จุด โดยผู้ประกอบการให้เหตุผลว่าสาเหตุที่ปิดก่อนสิ้นสุดโครงการฯ เนื่องจากช่วงนี้เกษตรกรนำข้าวมาจำนำน้อยลง ทำให้ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย
กรณีดังกล่าวทางสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ จะได้ทำหนังถึงจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพิจารณาอนุมัติเปิดจุดรวบรวมข้าวเปลือก ในอำเภอที่ไม่มีโรงสี เพื่ออำนวยความสะดวกและลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร ที่ยังมีข้าวตกค้างไม่ได้เข้าร่วมโครงดังกล่าวด้วย