ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “มทภ.2” สั่งหน่วยทหารพื้นที่ชายแดนภาคอีสาน ประสานตำรวจภาค 3-ภาค 4-หน่วยข่าวกรอง และ ด่าน ตม.ตะเข็บชายแดน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและตรวจคุมเข้มชาวต่างชาติเข้าเมือง หวั่นหลบหนีเข้าประเทศก่อการร้าย
วันนี้ (16 ก.พ.) พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบ 20 จังหวัดภาคอีสาน จากกรณีเกิดเหตุระเบิด 3 จุด ที่ซอยปรีดี พนมยงค์ ถนนสุขุมวิท 71 กรุงเทพฯ พร้อมจับกุมผู้ก่อเหตุเป็นชาวอิหร่านได้ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า เรื่องระเบิดคงไม่เกี่ยวกับข้องกับประเทศไทย
แต่อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการกำชับให้ทหารในสังกัดประสานกับทางตำรวจภูธรภาค 3, ตำรวจภูธรภูธรภาค 4 และทางหน่วยข่าวกรองของกองทัพภาคที่ 2 ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนตัวคิดว่าคงไม่น่าจะเกี่ยวข้องหรือมีเป้าหมายที่จะทำลายประเทศไทย เพราะดูตามเหตุการณ์คงมุ่งต่อบุคคลในส่วนประเทศที่ตกเป็นเป้าหมาย
พล.ท.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า หากกลุ่มที่จะเข้ามาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวจะเดินทางเข้าเมืองหรือหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยฝั่งชายแดนด้านภาคอีสานนั้นประเมินว่า น่าจะเข้ามาทางด้าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มากกว่าเพราะใกล้กว่า ในส่วนทางภาคอีสานตอนล่าง ไม่ว่าจะเป็น จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี คงไม่มาเพราะอยู่ไกล อย่างไรก็ตาม ตนได้ประสานให้ทางด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และหน่วยในพื้นที่เฝ้าดูแลอยู่แล้ว เพราะหน่วยเหนือจะส่งรูปภาพต่างๆ มาให้เรา
ส่วนการฝึกคอบราโกลด์ 2012 ที่มีทหารสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศเข้าร่วมฝึกจำนวนมากกว่า 13,000 นาย อยู่ในขณะนี้นั้น เขาคงมีการดูแลกำลังพลของเขาเองได้ แต่เราเพียงคอยเฝ้าสังเกตการณ์ชาวต่างชาติที่ผิดสังเกต โดยเฉพาะหากเป็นชาวอิหร่าน
