สระบุรี - ตำรวจสระบุรีร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุตสาหกรรมนำกำลังบุกจับแร่เถื่อน 2-3 หมื่นตัน มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
วันนี้ (16 ก.พ.) เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ของกรมอุตสาหกรรม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้บุกเข้าไปตรวจสอบแร่เถื่อนที่บริเวณหุบเขาหมู่ 8 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี
จากการตรวจสอบพบแร่ดังกล่าวเป็นแร่เหล็กถูกกองไว้เป็นหย่อมๆ โดยมีบางส่วนได้แร่ถูกตบแต่งเพื่อเตรียมนำเข้าสู่กระบวนการถลุงเหล็กและอีกบางส่วนยังเป็นแร่ดิบ ซึ่งทั้งหมดมีน้ำหนักประมาณ 2-3 หมื่นตัน จากการสอบสวนเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าจะมีการขุดแร่ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งมีการขอสัมปทานเหมืองแร่ไว้เป็นบางส่วน แต่เนื่องจากการขุดแร่และเคลื่อนย้ายเป็นจำนวนมากเกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนดไว้ จึงได้นำแร่ทั้งหมดมาหลบพักอยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เปลี่ยวในหุบเขา โดยเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงตามเหมืองแร่ที่ขอสัมปทานการขุดแร่ครั้งนี้
สำหรับแร่เหล็กจำนวนมากหากมีการลักลอบออกจำหน่ายนอกประเทศ จะมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้อายัติแร่ดังกล่าวไว้ตรวจสอบและติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป สำหรับอัตราโทษตามกฎหมายกำหนด ให้มีไว้ในครอบครองไม่เกิน 2 กิโลกรัม หากเกินจะมีความผิดระวางอัตราโทษปรับ 5 เท่าของค่าภาคหลวง
วันนี้ (16 ก.พ.) เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ของกรมอุตสาหกรรม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้บุกเข้าไปตรวจสอบแร่เถื่อนที่บริเวณหุบเขาหมู่ 8 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี
จากการตรวจสอบพบแร่ดังกล่าวเป็นแร่เหล็กถูกกองไว้เป็นหย่อมๆ โดยมีบางส่วนได้แร่ถูกตบแต่งเพื่อเตรียมนำเข้าสู่กระบวนการถลุงเหล็กและอีกบางส่วนยังเป็นแร่ดิบ ซึ่งทั้งหมดมีน้ำหนักประมาณ 2-3 หมื่นตัน จากการสอบสวนเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าจะมีการขุดแร่ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งมีการขอสัมปทานเหมืองแร่ไว้เป็นบางส่วน แต่เนื่องจากการขุดแร่และเคลื่อนย้ายเป็นจำนวนมากเกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนดไว้ จึงได้นำแร่ทั้งหมดมาหลบพักอยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เปลี่ยวในหุบเขา โดยเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงตามเหมืองแร่ที่ขอสัมปทานการขุดแร่ครั้งนี้
สำหรับแร่เหล็กจำนวนมากหากมีการลักลอบออกจำหน่ายนอกประเทศ จะมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้อายัติแร่ดังกล่าวไว้ตรวจสอบและติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป สำหรับอัตราโทษตามกฎหมายกำหนด ให้มีไว้ในครอบครองไม่เกิน 2 กิโลกรัม หากเกินจะมีความผิดระวางอัตราโทษปรับ 5 เท่าของค่าภาคหลวง