หวั่นทาสยาบ้าวัยโจ๋ขยับฐานะเป็นนักค้าขาใหญ่ หลังพฤติกรรมเปลี่ยนซื้อตรงเสพเองขายเอง

นครพนม - ผกก.ศรีสงคราม นครพนม สั่งตรวจเข้มกลุ่มวัยรุ่นเสพยาบ้า 3 จังหวัดอีสาน หลังตำรวจรวบโจ๋อุดรฯ ขับรถเครื่องขนยาบ้าริมโขงขายตรงผู้เสพ ผกก.ระบุในรอบเดือนจับได้เป็นจำนวนมาก หวั่นหากหลุดการจับกุมและบำบัดอาจพัฒนาเป็นเครือข่ายนักค้ายาบ้าขาดใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้

วันนี้ (16 ก.พ.) พ.ต.อ.วัชรินทร์ กุลสิงห์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลา 09.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจศรีสงคราม ได้จับกุมนายเดชศักดิ์ คำลิ้ม อายุ 29 ปี ชาวบ้านในตำบลหนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมของกลางยาบ้า 256 เม็ด รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 1 คัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนสายศรีสงคราม-ท่าดอกแก้วบริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันบางจาก หมู่ที่ 7 ต.ศรีสงคราม

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ผู้ต้องหารับสารภาพ ว่า เดินทางมารับยาบ้าบริเวณริมโขงเขตบ้านท่าดอกแก้ว อำเภอท่าอุเทน ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีการทะลักเข้ามาของยาบ้าจำนวนมาก โดยมีชาวลาวมาส่งให้ และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมนายสุริยา พาพร อายุ 19 ปี ชาวตำบลหนองสรวง อ.หนองกรุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พร้อมยาบ้า 1,928 เม็ด

พ.ต.อ.วัชรินทร์ กุลสิงห์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม กล่าวอีกว่า ประเด็นที่น่าสนใจคือพฤติกรรมที่เปลี่ยนของกลุ่มวัยรุ่นที่เสพยาบ้าในเขต จ.สกลนคร อุดรธานี และ จ.กาฬสินธ์ ซึ่งจากสถิติการจับกุมในรอบเดือนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถดักสกัดจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่เสพยาบ้าในพื้นที่ 3 จังหวัดหลายราย ของกลางยาบ้า 200-1,000 เม็ด

และผู้ต้องหาจะเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวอายุ 20-25 ปี ซึ่งจากการสอบสวนพบประเด็นที่น่าวิตกมาก จากเดิมกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้จะเป็นผู้เสพโดยซื้อยาบ้าจากขาใหญ่ในพื้นที่มาเสพกันลักษณะแชร์เงินกันซื้อยาบ้ามาเสพเม็ดละ 400-500 บาท

ต่อมากลุ่มผู้เสพเหล่านี้ได้พัฒนาตัวเองโดยเดินทางมาซื้อยาบ้าเองแต่จำนวนไม่มากโดยใช้รถเครื่องหรือรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะแล้วนำไปเสพกันเองและขายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้ายาบ้าขายปลีก

โดยผู้ต้องหากลุ่มวัยรุ่น เล่าว่า ถ้าซื้อยาบ้าเสพในพื้นที่จากขาใหญ่ราคาแพงมากเม็ดละ 400-500 บาท แต่เมื่อรวมเงินกันมาซื้อเองที่บริเวณริมโขงในจังหวัดนครพนม ราคาต้นทุนฝั่งไทยเม็ดละ 100-150 บาทเอาไปเสพและไปขายก็ยังมีกำไร

“พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของวัยรุ่นในเขตพื้นที่อีสานตอนในเหล่านี้น่าเป็นห่วงมาก หากไม่สามารถจับกุมและนำไปบำบัดอนาคตอีกไม่นานอาจจะขยับพัฒนาเป็นพ่อค้าเครือข่ายค้ายาบ้าขาใหญ่ได้” พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าว