บุรีรัมย์ - นักเรียน นักศึกษาบุรีรัมย์แห่ซื้อดอกกุหลาบมอบให้คนรักและครูอาจารย์ ในวันวาเลนไทน์ แม้ราคาพุ่งสูงกว่าปกติเท่าตัว ขณะพ่อค้าแม่ค้าระบุราคากุหลาบแพงทำยอดขายตก อีกทั้งวัยรุ่นหนุ่มสาวหันไปส่งข้อความทางอินเทอร์เน็ต และ เอสเอ็มเอส แทน ขณะปราสาทพนมรุ้ง นักท่องเที่ยวคึกคัก
วันนี้ (14 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักที่ จ.บุรีรัมย์ ดอกกุหลาบยังเป็นสัญลักษณ์ที่ขายดีที่สุดโดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายดอกไม้นิยมนำดอกไม้ไปขายตามหน้าโรงเรียนหลายแห่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ตั้งแต่เช้า ซึ่งได้รับความนิยมจากนักเรียนที่แห่กันมาซื้อกันล้นหลามเพื่อมอบให้คนรักและครูอาจารย์ ราคากุหลาบดอกละ 10-15 บาท หากเป็นช่อๆ ละ 100-200 บาท
ขณะเดียวกัน ตามร้านจำหน่ายดอกไม้บริเวณหน้าสวนรมย์บุรี เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ได้มีนักเรียน นักศึกษา วัยรุ่นหนุ่มสาวพากันมาหาเลือกซื้อดอกกุหลาบ เพื่อนำไปมอบให้กับเพื่อนสนิทคนรักและผู้ที่เคารพนับถือเพื่อแสดงความรักเนื่องในวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักกันอย่างคึกคัก
แต่ในปีนี้พบว่าดอกกุหลาบได้ปรับราคาสูงขึ้นกว่า 1 เท่า จากปกติราคาเพียงดอกละ 5 บาท เพิ่มเป็นดอกละ 10-15 บาท หากสั่งจัดเป็นช่อจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ช่อละ 100 บาท ถึง 1,000 บาท โดยพ่อค้าแม่ค้าอ้างว่าสาเหตุที่ปรับราคาขายดอกกุหลาบขึ้นในช่วงนี้ เพราะราคารับซื้อดอกไม้จากปากคลองตลาดปรับสูงขึ้น จากปกติเคยซื้อมัดละ 100-150 บาท เพิ่มเป็นมัดละ 300-400 บาท
ด้าน นางอรอนงค์ เพิ่มทรัพย์ แม่ค้าจำหน่ายดอกไม้หน้าสวนรมย์บุรี เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ยอมรับว่า ยอดขายดอกกุหลาบช่วงวาเลนไทน์ในปีนี้ลดลงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากวัยรุ่น หนุ่มสาวหันไปส่งข้อความถึงกันทางอินเทอร์เน็ต และ เอสเอ็มเอส ทางโทรศัพท์มือถือ แทนการส่งดอกไม้สื่อรักกันมากขึ้น
ส่วนสาเหตุที่ราคาจำหน่ายดอกกุหลาบหน้าร้านสูงขึ้น เนื่องจากพ่อค้าส่งจากคลองตลาดได้มีการปรับราคาสูงขึ้นกว่า 2 เท่าทำให้ทางร้านต้องปรับราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในปีนี้ส่วนมากวัยรุ่นหนุ่มสาวจะเลือกซื้อดอกกุหลาบเป็นดอกมากกว่าสั่งจัดเป็นช่อที่มีราคาแพง ทำให้ต้องสั่งดอกกุหลาบมาจำหน่ายลดลงกว่าปีที่ผ่านมา เกือบเท่าตัว เพราะต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นประกอบกับเกรงว่าหากสั่งมาปริมาณจะขายไม่หมดและทำให้ขาดทุน
ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ปราสาทพนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ช่วงวันวาเลนไทน์ ได้มีวัยรุ่น เยาวชน คู่หนุ่มสาว ทั้งไปเป็นกลุ่มคณะ และครอบครัว รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้พากันเดินทางขึ้นไปเที่ยวชม ความมหัศจรรย์และความงดงามของปราสาทพนมรุ้งกันอย่างคึกคัก ส่งผลให้ผู้ที่มาเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปกติกว่า 2 เท่า จากที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยววันละกว่า 1,000-2,000 คน เพิ่มขึ้นเป็นกว่าวันละกว่า 3,000-4,000 คน
คาดว่า ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ จะมีประชาชน กลุ่มวัยรุ่น เยาวชน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พาคนรักและครอบครัวขึ้นไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก ทำให้มีเงินสะพัดในการจับจ่ายชื้อของฝากของที่ระลึก และจับจ่ายตามร้านอาหารไม่น้อยกว่า 1-2 ล้านบาท
นางชุติมา จันทร์เทศ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ขอให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้งร่วมกันอนุรักษ์ โบราณสถานที่เก่าแก่ ไม่ควรไปขีดข่วนหรือทำลายให้โบราณสถานได้รับความเสียหาย เพื่อจะได้คู่บ้านเมืองไปนานๆ