ติงรัฐขาดความเข้าใจพัฒนาตลาดส่งออกเนื้อไก่ไทย ทำยอด ตปท.ไม่ขยายถึงขีดสุด

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไทย ติงรัฐบาลยังขาดความเข้าใจในการขยายตลาดส่งออกเนื้อไก่และการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถแบบครบวงจร ส่งผลตลาดส่งออกไทยยังไม่ขยายตัวถึงขีดสุด ขณะที่คณะกรรมการบริหารสินค้าไก่เนื้อและผลิตภัณฑ์ สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ตั้งเป้าการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ไก่เนื้อในปี 2555 จะเติบโตขึ้นจากปีก่อนอีก 1 แสนตัน

นางฉวีวรรณ คำพา ประธานกรรมการ บริษัท วีวรรณฟาร์ม จำกัด ในฐานะนายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยถึงแผนการผลิตและการตลาดไก่เนื้อของไทยในปี 2555 ว่า คณะกรรมการบริหารสินค้าไก่เนื้อและผลิตภัณฑ์ ได้ประมาณการผลผลิตไก่เนื้อและเป้าหมายส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นกรอบการดำเนินอุตสาหกรรม ประกอบด้วย เป้าหมายการส่งออกเนื้อไก่รวมในปี 2555 จะอยู่ที่ประมาณ 5.66 แสนตัน หรือเท่ากับ 7.25 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 2.34 พันล้านเหรียญสหรัฐ

แบ่งเป็นการส่งออกเนื้อไก่ แปรรูปที่ 4.70 แสนตัน มูลค่าประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 2.13 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนเนื้อไก่สด จะส่งออกที่ประมาณ 9.6 หมื่นตัน มูลค่าประมาณ 6.7 พันล้านบาท หรือประมาณ 217 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการส่งออกเนื้อไก่แปรรูปและเนื้อไก่สด ที่ 83.04 ต่อ 11.63 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ตัวเลขการส่งออกเนื้อไก่สด และแปรรูป ในปี 2554 รวมทั้งสิ้นประมาณ 4.62 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 6.21 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเนื้อไก่แปรรูป 4.35 แสนตัน มูลค่า 6.02 หมื่นล้านบาท และเนื่อไก่สด จำนวน 2.72 หมื่นตัน หรือประมาณ 1.88 พันล้านบาท ถือเป็นการตั้งเป้าหมายการส่งออกที่จะต้องเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1 แสนตัน โดยมีเป้าหมายสำคัญ อยู่ที่ตลาดในประเทศสหภาพยุโรปถึง ร้อยละ 45 ตลาดเอเชีย ร้อยละ 50 และตลาดอื่นๆ ร้อยละ 5.;

“ปีที่แล้วประเทศแถบยุโรปส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบการผลิตเนื้อไก่ตามโรงงานต่างๆในไทย ทำให้ผู้ประกอบการบางรายไม่เข้าใจ คิดว่าการที่ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกผลผลิตได้มากขึ้น ก็เลยเร่งขยายกำลังการผลิตทำให้ผลผลิตออกมาล้นตลาด ซึ่งก็ส่งผลให้ราคาเนื้อไก่ของไทยตกลง และตามห้องเย็นต่างๆ มีเนื้อไก่แช่อยู่จนล้น ในปีนี้รัฐบาล รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาตลาดต่างประเทศเพิ่มให้ผู้ประกอกการเพื่อให้สามารถระบายเนื้อไก่ที่ตกค้างอยู่ได้ ”

นางฉวีวรรณ ยังเผยอีกว่า ตลาดใหม่ที่น่าสนใจคือกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง และเซาท์แอฟริกา แต่ที่ในวันนี้ผู้ประกอบการยังไม่สามารถส่งออกไปได้ก็เพราะรูปแบบการผลิตยังไม่ครบวงจร ในส่วนของผู้ประกอบการบางราย ขณะที่ผู้ที่เข้ามารับผิดชอบเรื่องการหาตลาดส่งออกซึ่งอยู่ในการดูแลของรัฐบาล ก็ไม่มีความรู้มากพอ จึงขาดซึ่งความเข้าใจในเรื่องของการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ผลิตเพื่อการส่งออกในตลาดใหม่ และขาดความรู้เรื่องการขยายตลาดส่งออกที่สำคัญ

“ปัญหาน้ำท่วม เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่รัฐบาลจะต้องทำให้ได้ตามที่นายกฯ เคยรับปากกับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศไว้ เพราะหากมองในภาพรวมของอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อไก่เพื่อส่งออกของไทยแล้ว ยังมีตลาดต่างประเทศที่มีความต้องการสูงและรัฐบาลยังไม่มีนโยบายส่งเสริมการผลิตที่ครบวงจร ซึ่งหากในปีนี้รัฐบาล ยังปล่อยให้เกิดน้ำท่วมใหญ่อีก ก็จะกระทบต่อภาคการผลิต และการขยายตลาดอย่างแน่นอน” นางฉวีวรร กล่าว