มุกดาหาร - ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ขอความร่วมมือเกษตรกรงดเผาพื้นที่นาเพื่อปรับหน้าดิน รวมทั้งไร่อ้อย เนื่องจากลมแรง หวั่นเกิดเหตุเพลิงไหม้ลุกลาม สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน รวมทั้งเกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะจากควันไฟ ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
นายชาญวิทย์ วสยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ระยะนี้เป็นระยะที่เกษตรกรเริ่มมีการปรับหน้าดิน ในที่นาเพื่อทำการเกษตร โดยมักจะมีการเผาเศษวัชพืชก่อนปรับพื้นที่ อีกทั้งเกษตรกรชาวไร่อ้อย ส่วนใหญ่จะเผาใบอ้อย เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการเก็บเกี่ยว ซึ่งการกระทำดังกล่าว นอกจากจะทำให้หน้าดินถูกทำลาย ปริมาณน้ำตาลในอ้อยลดลงแล้วยังอาจส่งผลต่อความเสียหายมากขึ้น
ทั้งนี้ หากไม่สามารถควบคุมไฟ และไหม้ลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงหรือบ้านเรือนของราษฎร อีกทั้งยังควันไฟยังส่งผลให้เกิดทัศนวิสัยที่ไม่ดีต่อผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือเกษตรกรงดเผาเศษวัชพืชในพื้นที่นา หรือเผาไร่อ้อย หรือหากมีความจำเป็นต้องมีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมทำแนวกันไฟ เพื่อไม่ให้เกิดไฟไหม้ลุกลาม สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ข้างเคียง
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติควบคุมไฟป่าระบุไว้ว่า การจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ไฟลุกลาม ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 150,000 บาท ซึ่งหากพบเห็นการเกิดไฟไหม้ป่า สามารถแจ้งได้ทันทีที่สายด่วน 191 หรือ หน่วยงานควบคุมไฟป่าในพื้นที่ หรือโทร.สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง