มหาสารคาม - ผู้ว่าฯมหาสารคาม นำกำลังบุกจู่โจมเรือนจำ เพื่อค้นหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย สนองรับนโยบายรัฐสกัดยานรกในกรงขัง แต่ตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย
ที่เรือนจำจังหวัดมหาสารคาม นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยนางสาวรัศมี กิตติมนัส ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ อปพร. และหน่วยงานที่กี่ยวข้องกว่า 50 นาย บุกจู่โจมเรือนจำมหาสารคาม เพื่อค้นหาสิ่งผิดกฎหมายและสิ่งเสพติดที่ผู้อาจมีการลักลอบนำเข้ามาในเรือนจำ ตามมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้ามาในเรือนจำของรัฐบาล
โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังตรวจค้นเรือนนอนทั้งแดนหญิงและแดนชาย รวมทั้งตรวจค้นในตู้ล็อคเกอร์ และตรวจอาหารที่มีการนำเข้ามาให้ผู้ต้องขังรับประทาน
นางสาวรัศมี กิตติมนัส ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ปัจจุบันเรือนจำจังหวัดมหาสารคามมีผู้ต้องขังทั้งหมด 1,235 คน เป็นชาย 1,050 คน หญิง 170 คน ผู้ต้องกักขังชาย 2 คน หญิง 1 คน และเป็นผู้ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดชาย 2 คน และหญิง 12 คน
ในการตรวจค้นเรือนจำในครั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดและสนองนโยบายรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดที่ในปันจุบันพบว่ามีการแพร่ระบาดเข้ามาในเรือนจำเป็นจำนวนมากและมีการลักลอบใช้โทรศัพท์มือถือในเรือนจำเพื่อซื้อขายยาเสพติด
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติด รวมถึงโทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด พบเพียงแต่อุปกรณ์ของมีคมที่ผู้ต้องขังใช้ประกอบการทำงานเท่านั้น
ที่เรือนจำจังหวัดมหาสารคาม นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยนางสาวรัศมี กิตติมนัส ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ อปพร. และหน่วยงานที่กี่ยวข้องกว่า 50 นาย บุกจู่โจมเรือนจำมหาสารคาม เพื่อค้นหาสิ่งผิดกฎหมายและสิ่งเสพติดที่ผู้อาจมีการลักลอบนำเข้ามาในเรือนจำ ตามมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้ามาในเรือนจำของรัฐบาล
โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังตรวจค้นเรือนนอนทั้งแดนหญิงและแดนชาย รวมทั้งตรวจค้นในตู้ล็อคเกอร์ และตรวจอาหารที่มีการนำเข้ามาให้ผู้ต้องขังรับประทาน
นางสาวรัศมี กิตติมนัส ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ปัจจุบันเรือนจำจังหวัดมหาสารคามมีผู้ต้องขังทั้งหมด 1,235 คน เป็นชาย 1,050 คน หญิง 170 คน ผู้ต้องกักขังชาย 2 คน หญิง 1 คน และเป็นผู้ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดชาย 2 คน และหญิง 12 คน
ในการตรวจค้นเรือนจำในครั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดและสนองนโยบายรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดที่ในปันจุบันพบว่ามีการแพร่ระบาดเข้ามาในเรือนจำเป็นจำนวนมากและมีการลักลอบใช้โทรศัพท์มือถือในเรือนจำเพื่อซื้อขายยาเสพติด
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติด รวมถึงโทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด พบเพียงแต่อุปกรณ์ของมีคมที่ผู้ต้องขังใช้ประกอบการทำงานเท่านั้น