อุตรดิตถ์ - นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าคาย เมืองลับแล แฉรถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งหลบด่านชั่งน้ำหนัก ทำถนนในพื้นที่เสียหายยับ
นายชาลี คำด้วง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ต.ป่าคาย และ ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ ว่าถนนที่เชื่อมระหว่างสาย 11หรือพิษณุโลก-เด่นชัย ตั้งแต่บริเวณแยกบ้านน้ำอ่าง ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน ผ่าน ต.ป่าคาย ต.หาดกรวด อ.เมือง ที่จะเชื่อมต่อกับถนนสาย 11 อีกครั้งที่บริเวณบ้านไผ่ใหญ่ ต.หาดกรวด ชำรุดเสียหายเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ บางช่วงเป็นคลื่นสูงรถเก๋งแทบไม่สามารถผ่านได้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ชาวบ้านที่ต้องใช้ถนนสายดังกล่าวต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าถนนสายอื่น
จากการตรวจสอบและสอบถามข้อมูลจากประชาชนที่อาศัยและใช้ถนนสายดังกล่าวทราบว่า เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่รถบรรทุกขนาดใหญ่ตั้งแต่ 6 ล้อ 10 ล้อ หรือรถพ่วงตั้งแต่ 18 ล้อขึ้นไป ที่มักจะบรรทุกน้ำหนักเกินโดยเฉพาะรถบรรทุกหิน-ดิน ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งสังกัด สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เป็นเจ้าของมักบรรทุกเกินทุกเที่ยว และไม่ต้องการวิ่งผ่านเครื่องชั่งน้ำหนักที่อยู่บริเวณหน่วยบริการประชาชนไร่ห้วยพี้ ต.ป่าคาย หรือสาย 11 กลับมาใช้เส้นทางสายนี้แทน จึงทำให้ถนนสายดังกล่าวเสียหาย แม้จะมีการซ่อมแซมอยู่หลายครั้งแต่ก็สามารถใช้งานได้เพียงไม่กี่เดือนก็ชำรุดอีก
ทั้งนี้ พวกเขาอยากให้เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเอาจริงกับปัญหานี้ด้วย เพราะงบประมาณที่นำไปซ่อมแซมปีละจำนวนมากต้องสูญเปล่า
นายชาลี คำด้วง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ต.ป่าคาย และ ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ ว่าถนนที่เชื่อมระหว่างสาย 11หรือพิษณุโลก-เด่นชัย ตั้งแต่บริเวณแยกบ้านน้ำอ่าง ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน ผ่าน ต.ป่าคาย ต.หาดกรวด อ.เมือง ที่จะเชื่อมต่อกับถนนสาย 11 อีกครั้งที่บริเวณบ้านไผ่ใหญ่ ต.หาดกรวด ชำรุดเสียหายเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ บางช่วงเป็นคลื่นสูงรถเก๋งแทบไม่สามารถผ่านได้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ชาวบ้านที่ต้องใช้ถนนสายดังกล่าวต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าถนนสายอื่น
จากการตรวจสอบและสอบถามข้อมูลจากประชาชนที่อาศัยและใช้ถนนสายดังกล่าวทราบว่า เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่รถบรรทุกขนาดใหญ่ตั้งแต่ 6 ล้อ 10 ล้อ หรือรถพ่วงตั้งแต่ 18 ล้อขึ้นไป ที่มักจะบรรทุกน้ำหนักเกินโดยเฉพาะรถบรรทุกหิน-ดิน ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งสังกัด สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เป็นเจ้าของมักบรรทุกเกินทุกเที่ยว และไม่ต้องการวิ่งผ่านเครื่องชั่งน้ำหนักที่อยู่บริเวณหน่วยบริการประชาชนไร่ห้วยพี้ ต.ป่าคาย หรือสาย 11 กลับมาใช้เส้นทางสายนี้แทน จึงทำให้ถนนสายดังกล่าวเสียหาย แม้จะมีการซ่อมแซมอยู่หลายครั้งแต่ก็สามารถใช้งานได้เพียงไม่กี่เดือนก็ชำรุดอีก
ทั้งนี้ พวกเขาอยากให้เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเอาจริงกับปัญหานี้ด้วย เพราะงบประมาณที่นำไปซ่อมแซมปีละจำนวนมากต้องสูญเปล่า