ผู้การฯกาฬสินธุ์ยันไม่มีซ่องโสเภณี ท้าเอาตำแหน่งเป็นประกัน

กาฬสินธุ์-ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ยัน จ.กาฬสินธุ์ ไม่มีซ่องค้าโสเภณีในพื้นที่ ท้าเอาตำแหน่งประกัน ยอมรับมีเด็กและเยาวชนแอบค้าบริการทางเพศจริง แต่ส่วนใหญ่ติดต่อกันทางโทรศัพท์และยินยอม ซึ่งยากต่อการจับกุม สั่งเจ้าหน้าที่เข้มงวดสถานที่เสี่ยงมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น

ความคืบหน้าเหตุการณ์ตำรวจกองปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) จับกุมตัว นางสุปราณี สิงหอน หรือ จุ๋ม อายุ 28 ปี ที่ห้องพักหมายเลข 3 อารยารีสอร์ท ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ขณะนำหญิงวัยรุ่นอายุ 18-19 ปี 2 คน และเด็กหญิงอายุ 13 ปี และ 17 ปี อีก 2 คน มาขายบริการทางเพศ ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจับกุม นางอารี ฉายถวิล อายุ 56 ปี เจ้าของร้านอาหารและรีสอร์ต “อารยารีสอร์ท” หลังจาก นางสุปราณี ให้การซัดทอดอ้างว่า เป็นผู้ว่าจ้างและเกี่ยวข้องด้วย โดยมีเด็กในสังกัดอายุตั้งแต่ 13-20 ปี กว่า 100 คน

ต่อมาตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นำกำลังเข้าตรวจค้น อารยารีสอร์ท แล้ว พบว่า ไม่ได้เปิดเป็นร้านขายบริการหรือเป็นซ่องโสเภณีแต่อย่างใด ซึ่งเป็นเพียงร้านอาหารและรีสอร์ตธรรมดา ส่วนเด็กที่ขายบริการนั้นเป็นการล่อซื้อของเจ้าหน้าที่ และมีการนำเด็กมาจากที่อื่น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์และมีกระแสข่าวออกไปทางตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ทั้งกองกำกับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบสืบสวนหาข่าวทันที

จากการตรวจสอบ พบว่า สถานที่เกิดเหตุไม่ได้เปิดขายบริการหรือเป็นซ่องโสเภณี เป็นเพียงร้านอาหารและรีสอร์ต ธรรมดาทั่วๆ ไป ทั้งนี้ ตนในฐานะเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ทำงานในพื้นที่มานานกว่า 4 ปี พร้อมที่จะเอาตำแหน่งเป็นประกัน ยืนยันได้ว่า จ.กาฬสินธุ์ ไม่มีซ่องโสเภณีขายบริการทางเพศ หรือมีการเปิดร้าน บังคับขู่เข็ญ เปิดเป็นซ่องขายบริการแม้แต่แห่งเดียว และไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะที่ว่า มีตำรวจปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวมารับประทานอาหารและวางแผนล่อซื้อบริการ จนกระทั่งมีผู้นำเด็กมาส่งและถูกจับได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาการลักลอบขายบริการทางเพศยังมีอยู่ทุกพื้นที่ ไม่ใช่เพียง จ.กาฬสินธุ์ จังหวัดอื่นๆ ก็มี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นยินยอมและติดต่อซื้อขายบริการทางเพศกันทางโทรศัพท์ ซึ่งยากต่อการตรวจสอบและจับกุม

พล.ต.ต.คณิสร กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในสังคมมานานแล้ว ซึ่งจะต้องได้รับการแก้ไขจากทุกภาคส่วน รวมทั้งผู้ปกครองด้วย ในส่วนของตำรวจขณะนี้ ได้สั่งการให้ทุกท้องที่กวดขัน ดูแลสอดส่องการกระทำผิดดังกล่าวเข้มงวดขึ้น พร้อมทั้งลงพื้นที่ขอความร่วมมือเจ้าของผู้ประกอบการหอพัก รีสอร์ต โรงแรมต่างๆ ในพื้นที่ หากพบเห็นมีการมั่วสุมเกี่ยวกับยาเสพติด หรือค้าประเวณีให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและปราบปรามขบวนการดังกล่าวให้หมดไป

ด้าน ร.ต.ท.ธนกาญจน์ พระสุมาตย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาจากเจ้าหน้าที่ ปคม.ซึ่งจะถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นธุระจัดหาหญิงเพื่อการอนาจาร โดยขณะนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นประกันตัวเป็นเงินสดคนละ 50,000 บาท ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การว่าในวันเกิดเหตุมีการล่อซื้อ ซึ่งได้โทรศัพท์และพาเด็กเข้าไปจริง

นางสุปราณี จะได้ค่าโทรศัพท์และพาเด็กเข้าไปส่งคนละ 100 บาท ส่วน นางอารี จะได้ค่าโทรศัพท์และค่าห้องคนละ 400 บาท ส่วนเด็กที่มาขายบริการจะได้ค่าตัวคนละ 1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ต้องหายังให้การอีกว่า เด็กที่มาขายบริการนั้นเป็นผู้ฝากเบอร์โทรศัพท์ไว้ที่นางอารี และนางสุปราณี เนื่องจากต้องการเงินไปใช้จ่าย ซึ่งหากมีลูกค้ามาขอซื้อบริการทั้งสองคน จะเป็นคนโทรศัพท์เรียกและพาไปส่งลูกค้าเท่านั้น