xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาใต้เขื่อนสิริกิติ์ยิ้มได้น้ำเพิ่ม หลังปีกลายผืนนาแห้งผาก-ข้าวยืนต้นตายเกลี้ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ท้องนาเขต อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ฺ ที่ปีนี้เขียวชะอุ่มมีชีวิตชีวา หลังเขื่อนสิริกิติ์พร่งน้ำมากขึ้นต่างจากปี 2554 ที่ผ่านมา
อุตรดิตถ์ - ชาวนาเมืองลับแล ใต้เขื่อนสิริกิติ์ยิ้มออก หลังเขื่อนพร่องน้ำมากขึ้น จน ชป.สูบน้ำลงคลองเข้านาได้ หวังได้ขนข้าวขายเกวียนละหมื่นสอง พอสู้กับราคาข้าวของเครื่องใช้ที่พาเรดขึ้นราคาได้ ต่างจากปีกลายที่ลำคลอง-ท้องนาแห้งผาก ข้าวยืนต้นตายเกลี้ยง

หลังจากปีกลาย (2554) ต้นข้าวในผืนนาสองฝั่งคลองพระอุดม ต.วังกะพี้ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ต้องยืนต้นแห้งตาย ผืนดินแตกระแหงไปทั่ว จนชาวนาต้องพากันออกมาประท้วงให้ทางการเข้าช่วยเหลือ เนื่องจากโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้ากรมชลประทาน ไม่สามารถสูบน้ำส่งลงคลอง เข้าไปช่วยชาวนาได้ เพราะน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ ปล่อยออกมาตามลำน้ำน่าน มีน้อย ทำให้หัวสูบของโครงการไม่สามารถสูบน้ำได้

แต่ปีนี้ (2555) เขื่อนสิริกิติ์ มีการพร่องน้ำมากเพื่อรอรับน้ำใหม่ในฤดูฝนที่จะมาถึงอีกใน 3เดือนข้างหน้า ทำให้น้ำในแม่น้ำน่าน มีปริมาณสูงกว่าปีที่แล้ว จนโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้ากรมชลประทาน สามารถทำการสูบน้ำส่งไปตามลำคลอง เพื่อให้ชาวนาได้มีน้ำทำนาตลอดทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ต้องหยุดพัก

นายฉลวย สังข์เงิน ส.อบต.ตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล ที่ทำนา 40 ไร่ กล่าวกับผู้สื่อข่าว ว่า ปีนี้น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ดี เพราะว่าน้ำเขื่อนมีเยอะ เขาก็ปล่อยน้ำมามาก เครื่องสูบของชลประทาน ก็จะสูบได้มากชั่วโมงขึ้น เวลานี้สูบทั้งวันทั้งคืน แต่ในเวลากลางคืนก็จะสูบเครื่องเดียว ตอนกลางวันสูบ 2 เครื่อง ส่วนปีที่แล้วนาตรงนี้แห้งตาย เพราะว่าน้ำในเขื่อนเขาปล่อยออกมาน้อยชั่วโมงทำให้ชลประทานสูบน้ำขึ้นมาได้น้อย ทำให้ข้าวแห้งตาย

“ปีนี้ไม่น่าจะมีปัญหาหา เพราะผมดูโทรทัศน์เห็นบอกว่าจะเริ่มระบายน้ำเขื่อนเพื่อรองรับฤดูฝน สำหรับผมทำนาแค่ 40 กว่าไร่ ถ้าได้ข้าวสัก 30 กว่าตัน ประมาณ 80% หากราคาข้าวอยู่ที่เกวียนละหมื่นสอง ก็พออยู่ได้ แม้พวกข้าวของ น้ำมัน ยาฆ่าแมลง อะไรมันก็แพงขึ้น แต่ก็ยังพอทน”

คลองส่งน้ำ พื้นที่ใต้เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ปีนี้ (2555) มีน้ำไหลผ่านลงสู่ท้องนาของชาวบ้านตลอดทั้งวันทั้งคืน


(แฟ้มภาพ)ขณะที่คลองส่งน้ำเดียวกันนั้น เมื่อปีกลาย (2554) มีสภาพแห้งขอด ผิดกับปีนี้อย่างลิบลับ


กำลังโหลดความคิดเห็น