พระนครศรีอยุธยา - ผบก.พระนครศรีอยุธยา สั่งข้าราชการตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจาก 16 อำเภอ กว่า 200 นาย ของพระนครศรีอยุธยา เข้าแถวตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ระหว่างอบรมโครงการตำรวจสีขาว
วันนี้ (27 ม.ค.) พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจาก 16 อำเภอของจังหวัดพระนครศรีอยุธยากว่า 200 นายที่เดินทางมาอบรมโครงการตำรวจสีขาว เข้าแถวเดินออกไปรับกระบอกใส่ปัสสาวะทีละนาย เพื่อใช้ในการใส่ปัสสาวะของตนเอง และนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ตั้งโต๊ะรับการตรวจหาสารเสพติดด้านนอกห้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขจังหวัดใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ในการตรวจครั้งนี้ แต่ก็ไม่พบปัสสาวะของตำรวจนายใดมีสีม่วง
พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในการเรียกตำรวจที่มีหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดมาอบรมเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีการเรียกตรวจปัสสาวะของตำรวจที่เข้ามาอบรมในครั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ใต้บังคับบัญชา จึงต้องใช้วิธีการดังกล่าวเพื่อไม่ให้มีการตั้งตัว ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยคัดกรองได้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานรายใดมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดบ้าง ทั้งนี้ ตนเองจะสั่งให้มีการสุ่มตรวจกับตำรวจทุกโรงพักเป็นระยะ เพราะไม่ต้องการให้ข้าราชการตำรวจรายใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ก่อนหน้านี้ อดีตตำรวจภูธรเสนา ก่อเหตุอื้อฉาวมาแล้ว คือ ด.ต.วิจิตร ผลิตผล ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพวกอีก 2 คน คือ นายจรัล กิจสะสม และนายวีระ อินสุข ถูก พ.ต.อ.อธิชา เปาอินทร์ ผู้กำกับการ 2 ตำรวจสอบสวนภูธรภาค 1 ซ้อนแผนจับกุม พร้อมของกลางเงินสด 400,000 บาท ขณะขับรถยนต์มาที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเจรจาต่อรองขอให้ปล่อยตัวนายวิรัตน์ กิจสะสม พี่ชายนายจรัล ซึ่งถูกจับกุมคดีค้ายาไอซ์ ที่แมนชั่นริมถนนโรจนะ ต.คานหาม อ.อุทัย โดยครั้งนั้นแก๊งผู้ต้องหาเสนอจะให้เงินเจ้าหน้าที่ถึง 1 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัวนายวิรัตน์ แต่นำเงินสดมาเพียง 400,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องกำลังเข้าจับกุมอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งหมดจะยอมมอบตัว
วันนี้ (27 ม.ค.) พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจาก 16 อำเภอของจังหวัดพระนครศรีอยุธยากว่า 200 นายที่เดินทางมาอบรมโครงการตำรวจสีขาว เข้าแถวเดินออกไปรับกระบอกใส่ปัสสาวะทีละนาย เพื่อใช้ในการใส่ปัสสาวะของตนเอง และนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ตั้งโต๊ะรับการตรวจหาสารเสพติดด้านนอกห้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขจังหวัดใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ในการตรวจครั้งนี้ แต่ก็ไม่พบปัสสาวะของตำรวจนายใดมีสีม่วง
พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในการเรียกตำรวจที่มีหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดมาอบรมเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีการเรียกตรวจปัสสาวะของตำรวจที่เข้ามาอบรมในครั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ใต้บังคับบัญชา จึงต้องใช้วิธีการดังกล่าวเพื่อไม่ให้มีการตั้งตัว ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยคัดกรองได้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานรายใดมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดบ้าง ทั้งนี้ ตนเองจะสั่งให้มีการสุ่มตรวจกับตำรวจทุกโรงพักเป็นระยะ เพราะไม่ต้องการให้ข้าราชการตำรวจรายใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ก่อนหน้านี้ อดีตตำรวจภูธรเสนา ก่อเหตุอื้อฉาวมาแล้ว คือ ด.ต.วิจิตร ผลิตผล ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพวกอีก 2 คน คือ นายจรัล กิจสะสม และนายวีระ อินสุข ถูก พ.ต.อ.อธิชา เปาอินทร์ ผู้กำกับการ 2 ตำรวจสอบสวนภูธรภาค 1 ซ้อนแผนจับกุม พร้อมของกลางเงินสด 400,000 บาท ขณะขับรถยนต์มาที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเจรจาต่อรองขอให้ปล่อยตัวนายวิรัตน์ กิจสะสม พี่ชายนายจรัล ซึ่งถูกจับกุมคดีค้ายาไอซ์ ที่แมนชั่นริมถนนโรจนะ ต.คานหาม อ.อุทัย โดยครั้งนั้นแก๊งผู้ต้องหาเสนอจะให้เงินเจ้าหน้าที่ถึง 1 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัวนายวิรัตน์ แต่นำเงินสดมาเพียง 400,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องกำลังเข้าจับกุมอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งหมดจะยอมมอบตัว
