ศูนย์ข่าวศรีราชา - วงการสีกากีฉาว ตร.จราจร สภ.นาจอมเทียน นอกรีตขู่กรรโชกทรัพย์ ผู้ต้องหาเสพยาบ้า ล่าสุด ผู้บังคับบัญชา ซ้อนแผนให้ญาติเจ้าทุกข์นำเงินยัดใต้โต๊ะ ก่อนนำกำลังบุกเข้าจับกุม
วันนี้ (26 ม.ค.) พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.บางละมุง และพ.ต.อ.เกียรติพงษ์ นำลา ผกก.สภ.นาจอมเทียน สนธิกำลังร่วมเข้าจับกุมตัว ร.ต.อ.สมพร สุ่มมาตย์ รองสารวัตรจราจร ประจำตู้ยามจุดโรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมลูกน้องรวม 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.วีระพงษ์ บุดดาจันทร์ ตำรวจจราจร นายนิพนธ์ เย็นกมล อาสาจราจร และ นายบุญลือ สีบท อาสาจราจร ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่นพร้อมของกลางเงินสด 5,000 บาท
จากการจับกุมตำรวจนอกรีตในคดีนี้ สืบเนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นาย นำโดย ร.ต.อ.สมพร สุ่มมาตย์ ได้ตั้งจุดตรวจวินัยจราจร บนถนนสุขุมวิทบริเวณหน้าตู้ยาม ได้จับกุมตัว นายเจตริน หรือ เจ สุกรอดรู้ อายุ 18 ปี ชาวจังหวัดตรัง ขณะขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงิน-เทา ทะเบียน 638 ชลบุรี จากนั้น ได้นำตัวไปทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เมื่อพบว่าเป็นสีม่วง จึงได้ทำการข่มขู่พร้อมเรียกเงินประกันตัว เป็นเงิน 5,000 บาท
หลังถูกจับกุม เจ้าทุกข์จึงได้ติดต่อโทรศัพท์ไปยัง น.ส.นวลจันทร์ ช่ออารี อายุ 18 ปี แฟนสาวชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ไปนำเงินที่ผู้ปกครองมาประกันตัวออกไป แต่ญาติเกรงไม่ได้รับความปลอดภัย และกลัวถูกหลอก จึงร้องเรียนไปยังหน่วยงานตำรวจ
ต่อมา พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้สั่งการเร่งด่วนให้ ผู้กำกับ สภ.บางละมุง และสภ.นาจอมเทียน สนธิกำลังร่วมตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ก่อนทำการวางแผนให้ น.ส.นวลจันทร์ นำเงิน 5,000 บาท เข้าไปประกันตัวแฟนหนุ่ม ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในตู้ยาม เมื่อเห็นว่า นายเจตริน ได้ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม แม้ขณะจับกุม ร.ต.อ.สมพร สุ่มมาตย์ รองสารวัตรจราจร จะไม่อยู่ภายในตู้ยาม แต่เจ้าทุกข์ยืนยันว่า ขณะมีการเรียกเก็บเงิน ร.ต.อ.สมพร อยู่ด้วย จึงได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นาย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และได้ประกันตัวออกไปเป็นที่เรียบร้อย ด้าน นายเจตริน หรือ เจ ตรวจสอบแล้วมีความผิดจริง จึงถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาบ้า
ด้าน พ.ต.อ.เกียรติพงษ์ นำลา ผกก.สภ.นาจอมเทียน เปิดเผยว่า แม้เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นาย จะเป็นลูกน้องที่อยู่ในการบังคับบัญชาโดยตรง การสอบสวนจะไม่เอียงข้างใดข้างหนึ่ง ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย จนกว่าการสอบสวนคดีจะสิ้นสุด และหากพบว่ามีความผิดจริง ก็จะลงตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นอย่างเด็ดขาด