xs
xsm
sm
md
lg

ผช.ผบ.ตร.จี้ตำรวจระยองเร่งจับคนร้ายยิงถล่มศูนย์ข่าวเดลินิวส์ ตอ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ระยอง-ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจจี้ตำรวจภาค 2 ร่วมตำรวจภูธรระยอง เร่งจับกุมมือปืนยิงถล่มศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคตะวันออกให้ได้โดยเร็ว

ที่โรงเรียนเทคโนโลยี่ไออาร์พีซี ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมืองระยอง พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.ปป.11) เดินทางมาประชุมและมอบนโยบายข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พร้อมเปิดเผยความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม ยิงถล่มศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคตะวันออก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา

พล.ต.ท. เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมามอบนโยบายในการปราบปรามอาชญากรรมและเร่งรัดคดีตามหมายจับค้างเก่า ส่วนคดีคนร้ายชิอาวุธปืนสงครามยิงสำนักงานศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคตะวันออกนั้น ขณะนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 2 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ดำเนินการสืบสวนหาข้อมูลคนร้าย โดยขณะนี้อาศัยวัตถุพยานที่ได้จากกล้องวงจรปิดจับภาพรถยนต์ขณะคนร้ายลงมือยิงไว้ได้

ส่วนปลอกกระสุนปืนอาวุธสงครามในที่เกิดเหตุ ได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ หลักฐานหาหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงกลุ่มคนร้าย ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ส่วนรายละเอียดไม่สามารถลงลึกได้ เพราะเกรงจะเสียรูปคดี อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดระยองให้กวดขัน ตรวจตราบริเวณพื้นที่สำนักงานข่าวฯเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก และมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งใจทำงานเพื่อให้คดีนี้มีความคืบหน้าไปโดยเร็ววัน เพื่อที่จะสามารถจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.สุรพณ มงคลยุทธ ผกก.สส.ภ.จ.ระยอง เปิดเผยว่า ตอนนี้แนวทางสืบสวนในทางลับคืบหน้าไปมาก ทั้งบุคคลที่ต้องสงสัย การใช้รถยนต์คันก่อเหตุ และข้อมูลขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งจากการตรวจสอบเดลินิวส์ได้เสนอข่าวไปประเด็นเรื่องการนำเสนอข่าว ขบวนการค้ายาเสพติดที่มีเครือข่ายของผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำกลาง ทำให้ขบวนการยาเสพติดที่อยู่ข้างนอกซึ่งมีความเชื่อมโยงกับบุคคลหลายกลุ่มเกิดความโกรธแค้น

รวมถึงกรณีการนำเสนอข่าวการบุกรุกที่เขาขุนอินทร์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ที่มีขบวนการค้ายาเสพติดนำยาไปพักไว้บนเขาขุนอินทร์และมีการบุกรุกตัดไม้ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติแก๊งยาเสพติดดังกล่าวพบว่ามีการใช้ปืนอาก้าเช่นเดียวกัน หลักฐานทีเจ้าหน้าที่ต้องติดตามคือเรื่องรถและอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงไปยังตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ได้

ส่วนกรณีเรื่องส่วนตัวของผู้สื่อข่าวประจำศูนย์ข่าวฯ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 2 ได้ระดมทีมหาข่าวในเชิงลึก รวมทั้งตรวจสอบประวัติของอดีตหัวหน้าศูนย์ข่าวฯ ทั้งคนเก่าและคนใหม่ รวมถึงผู้สื่อข่าวที่ลาออกไปก่อนหน้าว่ามีความเชื่อมโยงกับปัญหาเรื่องงานหรือไม่

ทั้งหมดเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไมตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง แต่การก่อเหตุของคนร้ายยังพบว่ามีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธสงครามเป็นอย่างดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต่างทำงานอย่างหนักหามรุ่งหามค่ำเพื่อสืบสวนหาคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมาย เพราะถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น