เชียงราย - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สนธิกำลังกับฝ่ายทหาร-ปกครอง พร้อมผู้นำชุมชน บุกทำลายไร่ฝิ่นกลางป่าเชียงราย ได้ร่วม 2 ไร่ เผย เริ่มลักลอบปลูกกันมากขึ้นอีก หลังหายไปหลายปี ระบุ พื้นที่เชียงรายตอนนี้ เหลืออีกกว่า 60 แปลง ที่ต้องตรวจสอบและทำลาย
วันนี้ (11 ม.ค.) พ.ต.ท.วิเชียร ชุ่มชิต สารวัตรใหญ่ สภ.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังกับฝ่ายปกครอง นำโดย นายบุญเอื้อ คุณาธารกูล ป้องกัน จ.เชียงราย และผู้นำชุมชนพื้นที่ ต.แม่ลาว รวมกันประมาณ 50 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ภูเขาสูงเขตหมู่บ้านจะจ๋อ ต.ดอยฮาง อ.เมือง ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่ามูเซอ หลังสืบทราบว่า มีการลักลอบปลูกฝิ่นเป็นจำนวนมาก
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบมีการลักลอบปลูกต้นฝิ่นปะปนไปกับพื้นที่ป่า แต่เมื่อสังเกตอย่างละเอียด พบมีการแบ่งเป็นแปลงๆ จำนวน 2 แปลง รวมเนื้อที่ไร่ฝิ่นประมาณ 2 ไร่ โดยแต่ละแปลงมีต้นฝิ่นที่กำลังผลิดอก พร้อมให้ผลผลิต ขณะที่บางจุดพบมีรอยกรีดน้ำยางฝิ่นไปแปรรูปไปก่อนหน้านี้แล้ว
เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันตรวจสอบ แต่ไม่พบชาวบ้านในระแวกดังกล่าว คาดว่า ได้หลบหนีไปแล้ว เหลือเพียงเพิกพักที่มีร่องรอยการก่อไฟผิง และนอนเฝ้าอยู่บริเวณดังกล่าว จึงร่วมกันทำลายต้นฝิ่นด้วยการถอน-ตัดดอกทิ้ง เพื่อไม่ให้ใช้การได้อีกต่อไป
นายบุญเอื้อ กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าในพื้นที่เชียงราย ที่เป็นภูเขาสูงห่างไกลชุมชนยังคงมีการลักลอบปลูกฝิ่นกันอยู่ โดยเฉพาะอำเภอชายแดน มีไร่ฝิ่นเหลืออยู่อีกกว่า 60 แปลงที่จะต้องเข้าไปปราบปรามทำลาย ทั้งนี้สันนิฐานว่าสาเหตุที่มีการลักลอบปลูกฝิ่นกันมากขึ้น เพราะมีราคาซื้อขายสูงโดยฝิ่นเพียงแค่ 1 ไร่ สามารถขายและนำเงินไปซื้อรถยนต์ได้จำนวน 1 คัน ขณะเดียวกันยังสามารถนำไปสกัดเป็นยาเสพติดชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย ซึ่งทางจังหวัดจะได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เพื่อทำการปราบปรามให้สิ้นซากต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.วิเชียร กล่าวว่า สืบทราบว่า ฝิ่นดิบที่ทำลายไปครั้งนี้เป็นของชาวเขาในพื้นที่ โดยจะปลูกเพื่อกรีดไปขายให้กับกลุ่มผู้เสพย์ในเชียงราย และใกล้เคียง รวมทั้งบางส่วนส่งไปขายให้กับโรงงานผลิตยาเสพติดในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
พ.ต.ท.วิเชียร บอกว่า หลายปีที่ผ่านมา เชียงราย ไม่ค่อยมีการปลูกฝิ่นมากเหมือนตอนนี้ ต่ช่วงหลังเริ่มกลับมาระบาดอีก ซึ่งจะได้ตรวจสอบเครือข่ายเพื่อปราบปรามต่อไป