เชียงใหม่ - ตำรวจสารภีนำ 5 ผู้ต้องหาแก๊งลักตัดสายไฟทำแผน พร้อมเตรียมขยายผล หลังเคยเกิดเหตุลักษณะเดียวกันหลายสิบครั้ง แต่ยังควานหาตัวไม่ได้
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (11 ม.ค.) พ.ต.อ.นิตินาท วิทยาฑวุฒิกุล ผกก.สภ.สารภี จ.เชียงใหม่, พ.ต.ท.วิทยา วงศ์ใหญ่ สารวัตรเวร สภ.สารภี และเจ้าหน้าที่ ร่วมกันนำตัวนายสิริพงษ์ สตรอง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ที่ 10 ต.แม่ตื่น อ.ลี้ จ.ลำพูน พร้อมวัยรุ่นชายหญิงอายุ 16-18 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังร่วมกันลักสายไฟบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปิง บ้านป่างิ้ว หมู่ที่ 5 ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่
โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.20 น.วันเดียวกัน ซึ่งทางศูนย์วิทยุ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนร้ายกลุ่มหนึ่งกำลังลักตัดสายไฟฟ้าบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปิง บ้านป่างิ้ว หมู่ที่ 5 ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมา พ.ต.อ.นิตินาท วิทยาฑวุฒิกุล ผกก.สภ.สารภี พร้อมด้าย ตำรวจสายตรวจ รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นกำลังลักลอบตัดสายไฟฟ้าอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปทำการจับกุมได้ทั้งหมด 5 คน ทราบชื่อต่อมาคือนายสิริพงษ์ สตรอง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ที่ 10 ต.แม่ตื่น อ.ลี้ จ.ลำพูน และเยาวชนหญิงอายุ 18 และ 16 ปี 2 คน และเยาวชนชาย อายุ 16 และ 17 ปีอีก 2 คน
โดยคนร้ายกลุ่มนี้ได้ใช้คีมตัดสายไฟฟ้าสีเหลืองขนาดใหญ่ ตัดสายไฟฟ้าแรงสูงที่พาดผ่านบนสะพานข้ามแม่น้ำปิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเป็นของกลาง คือ สายไฟฟ้าขนาด 3x10 SA MM TABLE 7 ยาวประมาณ 100 เมตร จำนวน 1 เส้น รถยนต์กระบะโตโยต้าสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ปต 1546 ลำพูน 1 คัน จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์ (สายไฟฟ้า) ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่กระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนพร้อมด้วยของกลาง นำส่ง พ.ต.ท.วิทยา วงศ์ใหญ่ สารวัตรเวร สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.นิตินาทเปิดเผยว่า คนร้ายรับสารภาพว่าหลังจากตัดสายไฟฟ้าแล้ว จะนำไปขายและนำเงินที่ได้มาไปเที่ยวเตร่ คาดว่าคนร้ายแก๊งนี้เคยก่อเหตุในพื้นที่สารภีมาหลายครั้งแล้ว กำลังสอบสวนขยายผลอยู่ เพราะที่ผ่านมามีคนร้ายมาขโมยตัดสายไฟและสายโทรศัพท์ในพื้นที่หลายสิบครั้งสร้างความเดือดร้อนอย่างมาก โดยคนร้ายทั้งหมดเป็นวัยรุ่นในจังหวัดลำพูนที่เป็นเขตติดต่ออำเภอสารภี เชียงใหม่ พอก่อเหตุเสร็จก็หนีเข้าไปหลบในจังหวัดลำพูน ทำให้ติดตามจับกุมได้ยาก
ส่วนค่าเสียหายจากเหตุดังกล่าวอยู่ระหว่างประสานให้เจ้าหน้าที่แขวงการทางที่ 2 เชียงใหม่ เข้าไปตรวจสอบ
