กาญจนบุรี - กรมอุทยานฯ เต้นส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี ร่วมอุทยานแห่งชาติเอราวัณ นำกำลังบุกเข้าตรวจยึดไม้ท่อนขนาดใหญ่กลางป่ากาญจน์ 4 ท่อน หลังชาวบ้านออกมาเปิดโปงว่ามีขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
ความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านร้องเรียน ว่า มีขบวนการตัดไม้ทำลายป่าเข้าลักลอบตัดไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นั้น เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันนี้ (9 ม.ค.) นายธนะบดี เชื้อสุขประเสริฐ หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 สำนักสนับสนุนการป้องกันปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ 10 นาย เข้าพบ นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เพื่อร่วมสนธิกำลังลงตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับการร้องเรียน โดยใช้เวลาประชุมหารือนานกว่า 1 ชม.
ต่อจากนั้น นายธนะบดี พร้อม นางสาวจิตร บุญตา ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้นำกำลังพิทักษ์ป่าจำนวน 40 นาย ออกเดินตรวจสอบในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี กระจายกำลังออกเดินลาดตระเวนในรัศมี 1 กม.ซึ่งในพื้นที่เป็นพื้นที่ป่าภูเขาสูงชันจำนวนมาก ใช้เวลานานกว่า 3 ชม.ตรวจพบร่องรอยการลักลอบตัดไม้และแปรรูปไม้ที่น่าจะทำกันมาตั้งแต่ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา จึงทำการบันทึกตรวจยึดไม้ประดู่ท่อนจำนวน 4 ท่อน โดยไม้ท่อนแรก ยาว 10 เมตร ขนาดเส้นรอบวง 2.45 เมตร ท่อนที่ 2 ยาว 10 เมตร เส้นรอบวง 2.5 เมตร ท่อนที่สาม ยาว 7.5 เมตร เส้นรอบวง 2.5 เมตร ท่อนที่ 4 ยาว 3.2 เมตร เส้นรอบวง 2.3 เมตร เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดและนำสำนวนส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ เพื่อทำการสอบสวนต่อไป
นายธนะบดี เชื้อสุขประเสริฐ หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 เปิดเผยเกี่ยวกับภารกิจนี้ ว่า ทางสำนักสนับสนุนการป้องกันปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) ได้รับการร้องเรียนว่า มีการลักลอบตัดไม้และแปรรูปไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ พบมีการกระทำผิดจริง แต่ทราบว่าเป็นไม้ของกลางเก่าที่ทางอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้ทำการตรวจยึดไว้ตั้งแต่ 4 เดือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่สามารถขนออกมาได้จึงปล่อยทิ้งไว้ เพราะขนออกมายากมาก เนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขาและสูงชันมาก ส่วนหลังจากนี้ ก็จะร่วมกับทางอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ออกลาดตะเวนเพื่อปราบปรามการทำไม้อย่างเด็ดขาดต่อไป
ส่วน นายกมล นวลใย อุทยานแห่งชาติเอราวัณ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ ทางอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จะตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษลาดตระเวนเพิ่มอีก 4 ชุด เพื่อทำการป้องกันและปราบปรามในพื้นที่เสี่ยงอย่างเข้มงวดมากขึ้น