ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- สลด! สาวใหญ่โคราช วัย 44 ปี อดีตเมียตำรวจ เครียดป่วยด้วยโรคร้าย ใช้อาวุธปืนรีวอลเวอร์.38 ยิงตัวตายสยองคาห้องพักผู้ป่วยพิเศษ รพ.มหาราชนครราชสีมา เบื้องต้น ตร.คาดแอบพกปืนมาโรงพยาบาลยิงตัวเอง หลังอดีตสามีเดินทางมาเยี่ยมอาการ แต่ต้องให้ จนท.วิทยาการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.บรรณวิทิต ศรีหะพล สารวัตรเวรสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากพยาบาลเวร หอพักผู้ป่วยอาคารการไฟฟ้า 9 ชั้น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่า มีผู้ป่วยใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในห้องพักผู้ป่วยวีไอพี ชั้น 8 อาคารการไฟฟ้า 9 ชั้น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จึงรีบรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นห้องพักผู้ป่วย ห้องที่ 808 ภายในห้องพักบนเตียงผู้ป่วยพบศพ นางอริสรา ไวย์สันเทียะ อายุ 44 ปี ชาว อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา สภาพศพมีบาดแผลถูกอาวุธปืนขนาด.38 ยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย นอนเสียชีวิตโดยสวมชุดผู้ป่วย ใกล้กันพบอาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด.38 ตกอยู่ข้างตัว ตรวจสอบภายในห้องที่เกิดเหตุ พบรอยรูกระสุนเจาะกำแพงบริเวณหัวเตียงและมีหัวกระสุนฝังอยู่ 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน ด.ต.ประยุทธ ชุมพงค์ อดีตสามีของผู้ตายและเป็นผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ตนกับ นางอริสรา ผู้ตาย แยกทางกันนานหลายปีแล้ว แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตนได้รับทราบข่าวว่า นางอริสรา ป่วยต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ด้วยความเป็นห่วง วันนี้จึงเดินทางมาเยี่ยม และก่อนเกิดเหตุ ตนได้ออกไปส่งญาติพี่น้องของผู้ตายที่มาเยี่ยม และกำลังจะกลับไปพักผ่อน เมื่อตนกลับมาถึงห้อง ก็พบว่า ผู้ตายใช้อาวุธปืน ซึ่งไม่ทราบว่าเอามาจากไหนยิงตัวเอง ตนจึงรีบออกมาแจ้งพยาบาลเวรให้เข้าไปช่วยเหลือ แต่พบว่า นางอริสรา เสียชีวิตแล้ว
ด้าน นายธนวัฒน์ พงษ์ฤทธิ์ศักดา อายุ 20 ปี ญาติของผู้ป่วย ซึ่งพักรักษาอยู่ห้องติดกัน ให้การว่า ขณะกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องเลขที่ 806 ซึ่งอยู่ติดกัน ได้ยินเสียงดังคล้ายประทัดดังขึ้น แต่ไม่ได้สนใจ เนื่องจากอาคารหลังนี้ยังอยู่ในช่วงการต่อเติมอาคาร จึงคิดว่าเป็นเสียงช่างกำลังต่อเติมอาคาร จนกระทั่งมีพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถาม ถึงรู้ว่ามีผู้ป่วยใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่า สาเหตุเกิดจากความเครียดที่ผู้ตายป่วยเป็นโรคร้ายแรง ไม่สามารถรักษาให้หายได้ จึงตัดสินใจอาศัยช่วงที่ญาติเดินออกไปด้านนอกห้องใช้อาวุธปืนที่แอบพกติดตัวมายิงตัวเองเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม จะได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป