ทม.พะเยา ฟื้นแห่ผ้าพันตา หลังสูญหายไปกว่าครึ่งศตวรรษ

พะเยา - เทศบาลเมืองพะเยา รื้อฟื้นพิธีแห่ผ้าพันตา ห่มพระเจ้าตนหลวง หลังไม่มีการทำพิธีนี้มานานกว่าครึ่งศตวรรษ เผย ครั้งหลังสุดจัดพิธีแห่เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรชาวพะเยา 13 มีนาคม 2501

วันนี้(7 ม.ค.) ที่วัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง ต.เวียง อ.เมืองพะเยา นายศรายุธ กัลยา นายกเทศมนตรีเมืองพะเยา ได้เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพันตาห่มองค์พระเจ้าตนหลวง โดยมีข้าราชการ และคณะครู นักเรียน จากโรงเรียนเทศบาลทั้ง 6 แห่ง คณะศรัทธาจาก 13 ชุมชน ได้ร่วมกันแห่ผ้าพันตา จากสนามหนองระบู ผ่านหน้าตลาดไปยังวัดศรีโคมคำ ระยะทางกว่า 2 กม.

นายศรายุธ กล่าวว่า ไม่ทราบความเป็นมาของการทำผ้าพันตา ไปห่มองค์พระเจ้าตนหลวง ว่า มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ทราบจากผู้สูงอายุเพียงว่า ประเพณีแห่ผ้าพันตา ได้สูญหายไปนานแล้ว โดยครั้งล่าสุดที่มีการแห่ผ้าพันตา ก็คือ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกรชาวพะเยา เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2501 จากนั้นก็ไม่มีอีกเลย

เทศบาลเมืองพะเยา จึงได้รื้อฟื้นประเพณีอันดีงามเพื่อเป็นการส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้ยืนยงคงอยู่สถาพร และเพื่อให้เด็กเยาวชนรุ่นหลังได้สืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามให้คงอยู่สืบไป โดยร่วมกับคณะศรัทธาทั้ง 13 ชุมชน ร่วมกันติดดอกติดตาผ่าห่ม เพื่อนำมาถวายพระเจ้าตนหลวง

ด้านท่านเจ้าคุณพระสุนทรกิตติคุณ รองเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง เจริญพร ว่า การห่มผ้าพันตาให้พระเจ้าตนหลวงแต่เดิมจะทำในช่วงเดือนแปดเป็ง (เดือน 8 เหนือขึ้น 15 ค่ำ ) ต่อมาได้มีผู้มีจิตศรัทธานำผ้ามาห่มให้อยู่เนืองๆ เนื่องจากเห็นว่าผืนเก่ามีฝุ่นไม่สวยงาม จนมาถึงการบูรณะปิดทององค์พระเจ้าตนหลวงใหม่ เมื่อเสร็จแล้วก็ไม่มีการห่มผ้าพันตาให้พระเจ้าตนหลวงอีกเลย

ท่านเจ้าคุณสุนทรกิตติคุณ เจริญพร อีกว่า การรื้อฟื้นประเพณีอันดีงามก็เป็นสิ่งที่ดี เพื่อต่อยอดพระพุทธศาสนาให้มั่นคงยิ่งขึ้น ที่เรียกว่า ผ้าพันตา เนื่องจากพระเจ้าตนหลวงเป็นพระองค์ใหญ่คู่บ้านคู่เมืองล้านนา มีขนาดหน้าตักกว้าง 28 ศอก สูงจากฐานถึงพระโมลี 34 ศอก จึงต้องใช้ผ้าผืนใหญ่มาก โดยผ้าที่นำมาต่อกันนั้นจะต้อเป็นช่องๆ รวมกันแล้วได้ 1,000 ช่อง มีการปักลวดลายตามแต่ศรัทธา เนื่องจากมีช่องผ้าถึง 1,000 ช่อง ชาวบ้านจึงเรียกว่าผ้าพันตา

ก่อนที่จะนำผ้าพันตาเข้ามาวิหาร ได้มีการเดินกลางผ้าออกแล้วแห่รอบวิหาร 3 รอบ หมายถึงพระรัตนตรัย โดยมีหลวงพ่อพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 เจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง เป็นประธานสงฆ์ ส่วนผ้าพันตาหรือผ้าห่มองค์พระเจ้าตนหลวงที่นำมาวันนี้ยังคงต้องวางไว้บนพานไม้หน้าพระเจ้าตนหลวงก่อน เนื่องจากกำลังบูรณะปิดทองพระเจ้าตนหลวงใหม่ เนื่องจากชำรุดเสียหายเมื่อครั้งแผ่นดินไหวในพม่าที่ผ่านมา