xs
xsm
sm
md
lg

5 วันอันตรายเชียงใหม่ตายเกินเป้าแล้ว ล่าสุดยอดทะลุ 9 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สถิติการเกิดอุบัติเหตุเชียงใหม่สะสม 5 วันอันตราย เกิดอุบัติเหตุ 69 ครั้ง ขึ้นลำดับที่ 5 ของประเทศ ส่วนผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 75 ราย เป็นลำดับที่ 6 ในขณะที่คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 ยังคงเน้นให้จุดตรวจ จุดสกัดทุกแห่งทั่วจังหวัดเข้มงวดมาตรการบังคับใช้กฏหมาย

นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ จนถึง 2 ม.ค.55 จังหวัดเชียงใหม่พบการเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย เหตุเกิดในพื้นที่อำเภอสันทราย ดอยสะเก็ด และอำเภอดอยหล่อ

ส่วนอำเภอที่ไม่เกิดอุบัติเหตุมี 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอแม่แตง เวียงแหง แม่ออน และอำเภอกัลยาณิวัฒนา ในขณะที่สถิติการเกิดอุบัติเหตุสะสม 5 วัน เกิดเหตุจำนวน 69 ครั้ง เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 19 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 75 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16 ราย และผู้เสียชีวิต 9 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2 ราย

สำหรับสถิติอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในวันที่ 2 มกราคม 2555 ยังคงพบว่า ประเภทยานพาหนะที่เกิดเหตุมากที่สุด คือรถจักรยานยนต์ถึง 14 ราย สาเหตุเกิดจากเมาสุรามากที่สุด รองลงมาคือขับรถเร็วเกินกำหนด และทัศนวิสัยไม่ดี ส่วนเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดยังคงเป็นถนนในเขต อบต.และหมู่บ้าน 12 ครั้ง รองลงมาคือ ถนนกรมทางหลวง 9 ครั้ง และช่วงเวลาที่เกิดเหตุมากที่สุดคือระหว่างเวลา 08.01-12.00 น.

ในส่วนของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 (ส่วนกลาง) ได้ประชุมและวิเคราะห์สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 รวม 4 วัน ได้วิเคราะห์สถิติการเกิดอุบัติเหตุพบว่าดัชนีความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นสูงกว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ดัชนีความรุนแรง หมายถึง การเทียบสัดส่วนผู้เสียชีวิตต่อการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ซึ่งข้อมูลในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา 3 ปี พบดัชนีความรุนแรงซึ่งเทียบจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 100 ครั้ง ดังนี้ ปี 2552 ผู้เสียชีวิตร้อยละ 9.60 ปี 2553 ผู้เสียชีวิตร้อยละ 9.82 ปี 2554 ผู้เสียชีวิตร้อยละ 10.24 และปี 2555 (วันที่ 29 ธ.ค. 2554 - 1 ม.ค. 2555) ผู้เสียชีวิตร้อยละ 11.12

โดยมีปัจจัยที่ก่อให้เกิดความรุนแรงที่ส่งผลให้เกิดการเสียชีวิต ประกอบด้วย การขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การชนวัตถุข้างทาง ซึ่งเกิดจากยานพาหนะสูญเสียการควบคุม ผู้ขับขี่อ่อนล้า และหลับใน เป็นต้น การบาดเจ็บที่ศีรษะเนื่องจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย โดยสารยานพาหนะที่ขาดระบบยึดรั้งเพื่อความปลอดภัย

เช่น การโดยสารรถกระบะเปิดท้าย และการไม่คาดเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ทุกประเภท ปัจจัยดังกล่าว หากมีการสวมหมวกนิรภัยและคาดเข็มขัดนิรภัยจะลดโอกาสการเสียชีวิตลงเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ร้อยละ 40 ดังนั้น จากความรุนแรงดังกล่าว ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 จึงกำหนดมาตรการเพื่อให้จังหวัดและกองบัญชาการตำรวจนครบาล พิจารณาดำเนินการ ดังนี้

ด้านการบริหารจัดการ ให้ปรับแผนการปฏิบัติเพื่อรองรับการเดินทางกลับของประชาชน เน้นการปฏิบัติงานบนถนนสายหลัก และกำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มงวดกวดขัน เรียกตรวจรถที่ฝ่าฝืนการกระทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มงวดกวดขัน และควบคุมให้พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ และให้พนักงานขับรถปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด มีสติ ไม่ขับรถเร็วไม่ตัดหน้ากระชั้นชิด หรือแซงอย่างกระทันหัน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ และเนื่องจากในวันที่ 2-3 มกราคม 2555 เป็นวันหยุดชดเชย และยังคงมีประชาชนบางส่วนเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ จึงให้ยังคงมีการจัดตั้งจุดตรวจในถนนสายรองในช่วง 2 วันดังกล่าว โดยเน้นการเรียกตรวจและจับกุมยานพาหนะประเภทรถจักรยานยนต์ที่ไม่มีการสวมหมวกนิรภัยเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่มีความรุนแรง

ด้านการประชาสัมพันธ์ เนื่องจากวันที่ 3-4 มกราคม 2555 จะเป็นวันที่ประชาชนเดินทางกลับกรุงเทพฯหรือจังหวัดต่างๆ จำนวนมาก จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงประชาสัมพันธ์แนะนำให้ประชาชนวางแผนการเดินทางกลับ โดยพักผ่อนให้เพียงพอ และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากรู้สึกง่วงให้หยุดพักทันที และเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ผู้ขับขี่ควรจอดแวะพักทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทุกระยะ 150 กิโลเมตร ตามสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงหรือจุดบริการของหน่วยงานต่างๆ ประชาสัมพันธ์แนะนำให้ผู้โดยสารหมั่นสังเกตอาการของพนักงานขับรถให้อยู่ในสภาพพร้อมขับขี่ตลอดเวลา หากพบว่าพนักงานขับรถเหยียบเบรกบ่อยๆ นั่งนิ่งนานๆ หรือมีอาการหาวบ่อย ให้หยุดจอดพักรถในบริเวณที่ปลอดภัยเพื่อพักผ่อนหรือเปลี่ยนให้ผู้อื่นขับแทน หรือแจ้งตำรวจทางหลวง หมายเลข 1193 และศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ หมายเลข 1584

และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า จากข้อมูลของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ใช้บริการโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินทางหมายเลข 1669 เพียงร้อยละ 22 ซึ่งในจำนวนนี้ชุดปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินสามารถช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้ถึงร้อยละ 97 ดังนั้น หากประชาชน พบเห็นผู้บาดเจ็บหรืออุบัติเหตุฉุกเฉิน โทรแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลข 1669 ฟรีทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและลดความพิการให้มากที่สุด โดยกระทรวงสาธารณสุขได้กำชับให้โรงพยาบาลทุกแห่งปฏิบัติตามนโยบาย “3 เร็ว (แจ้งเร็ว รับเร็ว ส่งเร็ว) และ 2 ดี (คุณภาพการรักษาผู้บาดเจ็บดีทั้งภาวะปกติและฉุกเฉิน)

มาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 เนื่องจากผลการตรวจจับ 4 วัน (29 ธค.54-1 มค.55) ในสายเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ ตรวจทั้งหมด 180 ราย พบการกระทำผิด ดำเนินคดี จำนวน 52 ราย คิดเป็นร้อยละ 29 หรือเกือบ 1 ใน 3 ส่วนใหญ่กระทำผิด พ.ร.บ.การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตาม พ.ร.บ. พ.ศ. 2551 มาตรา 32 รองลงมามาตรา 27 และ 29 ดังนั้นจึงให้เร่งรัดและเข้มงวดการตรวจจับให้มากขึ้น จะช่วยให้ลดปัญหาเมาแล้วขับได้มากขึ้น

กรณีอุบัติเหตุใหญ่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชัยนาท นครสวรรค์ และจังหวัดสระแก้ว จึงขอให้จังหวัดเน้นย้ำให้จุดตรวจและจุดสกัดให้กวดขันในเรื่องการสวมหมวกนิรภัย และคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่เป็นกรณีพิเศษ และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่ที่ขับรถระยะทางไกล หากรู้สึกอ่อนเพลียหรือง่วงนอน ขอให้หยุดพักในจุดพักรถต่างๆ เช่น สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จุดบริการของตำรวจทางหลวง ก่อนที่จะเดินทางต่อไป รวมทั้งผู้ที่เดินทางไกลให้เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ ยานพาหนะ โดยให้มีการตรวจสภาพรถก่อนการเดินทางให้เรียบร้อย

สำหรับสถิติอุบัติเหตุในภาพรวมระดับประเทศสะสม 5 วัน มีผู้เสียชีวิตรวม 282 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1 คน โดยจังหวัดเชียงรายยังคงมีจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด 95 ครั้ง รองลงมาคือจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนจังหวัดเชียงใหม่เป็นลำดับที่ 6 โดยมีจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ 69 ครั้ง

จำนวนผู้บาดเจ็บมากที่สุดคือจังหวัดนครสวรรค์ 100 ราย รองลงมาได้แก่จังหวัดเชียงราย ส่วนจังหวัดเชียงใหม่เป็นลำดับที่ 6 โดยมีจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมด 75 ราย

จำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ 16 ราย รองลงมาได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ 15 ราย ส่วนจังหวัดเชียงใหม่เป็นลำดับที่ 6 มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 5 วัน จำนวน 9 ราย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 จังหวัดเชียงใหม่ ได้หารือร่วมกันและเห็นควรยังคงเน้นให้จุดตรวจ จุดสกัดทุกแห่งทั่วจังหวัดเข้มงวดมาตรการการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะการสวมหมวกนิรภัย
กำลังโหลดความคิดเห็น