จันทบุรี - ประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรี ร่วมวางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันปราบดาภิเษก
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทุ่งนาเชย จังหวัดจันทบุรี นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรภาคเอกชน วางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะแด่พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ โอกาสนี้มูลนิธิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจันทบุรี ได้มอบทุนการศึกษาประจำปี พ.ศ.2555 ให้แก่นักเรียนที่ประพฤติดี ตั้งใจเรียน ครอบครัวมีฐานะยากจนในพื้นทีอำเภอต่างๆ ในจังหวัดจันทบุรี อำเภอละ 8 ทุน แยกเป็นระดับประถมศึกษา 50 ทุนๆ ละ 1,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาต้น 30 ทุนๆละ 1,500 บาท รวมทั้งจังหวัด 80 ทุน เป็นเงิน 95,000 บาท
สำหรับวันที่ 28 ธันวาคม ปีพุทธศักราช 2311 ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ ซึ่งเมืองจันทบุรีเคยเป็นดินแดนที่รวมไพร่พลในการกอบกู้เอกราช
สำหรับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงมีพระราชประวัติ ดังนี้ เดิมชื่อ สิน พระราชสมภพเมื่อวันที่ 17 เมษายน พุทธศักราช 2277 ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สมัยกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในการศึกเป็นอย่างยิ่ง มีความมานะอดทน กล้าหาญ จึงเจริญในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ ตามลำดับ คือ เป็นพระยาตาก ได้เลื่อนเป็นพระยาวชิรปราการ สำเร็จราชการเมืองกำแพงเพชร ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศ แต่ยังมิได้ไปครองเมืองพม่าก็ยกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา จึงอยู่ช่วยราชการในเมืองหลวงทรงบัญชาการสู้รบกับพม่าอย่างเข้มแข็ง พม่าต้องล่าถอยกลับไปหลายครา
หลังจากนั้น 6 เดือน พม่าได้ยกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีกพระยาวชิรปราการ คิดว่าครั้งนี้กรุงศรีอยุธยาคงไม่พ้นเงื้อมือพม่าเป็นแน่แท้ เนื่องจากบ้านเมืองระส่ำระสาย ไพร่พลอิดโรย ขาดเสบียงอาหาร และขาดศาสตราวุธ ประกอบกับขาดการประสานงานที่ดี ระหว่างแม่ทัพ นายกอง จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกได้ประมาณ 500 คน ตีฝ่าวงล้อมพม่า ออกจากกรุงศรีอยุธยา หวังไปรวบรวมไพร่พล เพื่อกอบกู้เอกราชคืนในภายหน้า โดยมีทหารเอกคู่ใจติดตามมาด้วย 4 ท่าน คือ หลวงราชเสน่หา หลวงพรหมเสนา พระยาพิชัยอาสา หรือพระยาพิชัยดาบหัก และพระเชียงเงิน
พระราชกรณียกิจที่สำคัญจนได้สมัญญาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คือ พระราชกรณียกิจการกอบกู้เอกราช พระองค์ทรงใช้เวลา 5 เดือนเศษ ในการรวบรวมไพร่พลที่เมืองจันทบุรี ได้ทหาร 5,000 คนต่อเรือรบ 100 ลำ ทรงยกทัพไปต่อสู้กับพม่า ซึ่งตั้งอยู่ ณ ค่ายโพธิ์สามต้นธนบุรี ได้รับชัยชนะในที่สุด เป็นการกอบกู้เอกราชของชาติไทยกลับคืนมา หลังจากเสียกรุงแก่พม่าเพียง 7 เดือน อาณาประชาราษฎร์ทั้งหลาย จึงพร้อมกันกราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้น ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ตรงกับวันที่ 28 ธันวาคม พุทธศักราช 2311 ทรงพระนามว่า พระศรีสรรเพชญ์ หรือสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 แต่เรียกขนานนามพระองค์ ติดปากว่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน หรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานี รวมระยะเวลาทรงครองราชย์ 15 ปี
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ขององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทางรัฐบาล อีกทั้งปวงประชาราษฎร์ทั้งหลาย จึงพากันถวายพระเกียรติ ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกของพระองค์ ให้เป็นวันระลึก “วันตากสินมหาราช” และจังหวัดจันทบุรีก็ได้จัดงานเทิดพระเกียรติ น้อมระลึกถึงพระองค์ท่านทุกปี
โดยใช้ชื่องานว่า “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชรำลึก และกาชาดจังหวัดจันทบุรี” งานจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม ถึง 5 มกราคม และมีกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ มากมาย
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทุ่งนาเชย จังหวัดจันทบุรี นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรภาคเอกชน วางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะแด่พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ โอกาสนี้มูลนิธิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจันทบุรี ได้มอบทุนการศึกษาประจำปี พ.ศ.2555 ให้แก่นักเรียนที่ประพฤติดี ตั้งใจเรียน ครอบครัวมีฐานะยากจนในพื้นทีอำเภอต่างๆ ในจังหวัดจันทบุรี อำเภอละ 8 ทุน แยกเป็นระดับประถมศึกษา 50 ทุนๆ ละ 1,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาต้น 30 ทุนๆละ 1,500 บาท รวมทั้งจังหวัด 80 ทุน เป็นเงิน 95,000 บาท
สำหรับวันที่ 28 ธันวาคม ปีพุทธศักราช 2311 ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ ซึ่งเมืองจันทบุรีเคยเป็นดินแดนที่รวมไพร่พลในการกอบกู้เอกราช
สำหรับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงมีพระราชประวัติ ดังนี้ เดิมชื่อ สิน พระราชสมภพเมื่อวันที่ 17 เมษายน พุทธศักราช 2277 ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สมัยกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในการศึกเป็นอย่างยิ่ง มีความมานะอดทน กล้าหาญ จึงเจริญในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ ตามลำดับ คือ เป็นพระยาตาก ได้เลื่อนเป็นพระยาวชิรปราการ สำเร็จราชการเมืองกำแพงเพชร ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศ แต่ยังมิได้ไปครองเมืองพม่าก็ยกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา จึงอยู่ช่วยราชการในเมืองหลวงทรงบัญชาการสู้รบกับพม่าอย่างเข้มแข็ง พม่าต้องล่าถอยกลับไปหลายครา
หลังจากนั้น 6 เดือน พม่าได้ยกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีกพระยาวชิรปราการ คิดว่าครั้งนี้กรุงศรีอยุธยาคงไม่พ้นเงื้อมือพม่าเป็นแน่แท้ เนื่องจากบ้านเมืองระส่ำระสาย ไพร่พลอิดโรย ขาดเสบียงอาหาร และขาดศาสตราวุธ ประกอบกับขาดการประสานงานที่ดี ระหว่างแม่ทัพ นายกอง จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกได้ประมาณ 500 คน ตีฝ่าวงล้อมพม่า ออกจากกรุงศรีอยุธยา หวังไปรวบรวมไพร่พล เพื่อกอบกู้เอกราชคืนในภายหน้า โดยมีทหารเอกคู่ใจติดตามมาด้วย 4 ท่าน คือ หลวงราชเสน่หา หลวงพรหมเสนา พระยาพิชัยอาสา หรือพระยาพิชัยดาบหัก และพระเชียงเงิน
พระราชกรณียกิจที่สำคัญจนได้สมัญญาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คือ พระราชกรณียกิจการกอบกู้เอกราช พระองค์ทรงใช้เวลา 5 เดือนเศษ ในการรวบรวมไพร่พลที่เมืองจันทบุรี ได้ทหาร 5,000 คนต่อเรือรบ 100 ลำ ทรงยกทัพไปต่อสู้กับพม่า ซึ่งตั้งอยู่ ณ ค่ายโพธิ์สามต้นธนบุรี ได้รับชัยชนะในที่สุด เป็นการกอบกู้เอกราชของชาติไทยกลับคืนมา หลังจากเสียกรุงแก่พม่าเพียง 7 เดือน อาณาประชาราษฎร์ทั้งหลาย จึงพร้อมกันกราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้น ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ตรงกับวันที่ 28 ธันวาคม พุทธศักราช 2311 ทรงพระนามว่า พระศรีสรรเพชญ์ หรือสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 แต่เรียกขนานนามพระองค์ ติดปากว่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน หรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานี รวมระยะเวลาทรงครองราชย์ 15 ปี
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ขององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทางรัฐบาล อีกทั้งปวงประชาราษฎร์ทั้งหลาย จึงพากันถวายพระเกียรติ ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกของพระองค์ ให้เป็นวันระลึก “วันตากสินมหาราช” และจังหวัดจันทบุรีก็ได้จัดงานเทิดพระเกียรติ น้อมระลึกถึงพระองค์ท่านทุกปี
โดยใช้ชื่องานว่า “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชรำลึก และกาชาดจังหวัดจันทบุรี” งานจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม ถึง 5 มกราคม และมีกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ มากมาย