ตราด - คลื่นลมแรงกระทบเรือประมงอวนรุน, อวนลาก ประมงพื้นบ้านจังหวัดตราดหยุดออกทำประมง ขณะที่อาหารทะเลสด ราคาแพงขึ้นอีกกิโลกรัมละ 20 บาท ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเกาะกูดยังคึกคักเหมือนเดิม
จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนจังหวัดในภาคตะวันออกว่า ในช่วง 1-3 วันที่ผ่านมา (24-26 ธ.ค.) สภาพภูมิอากาศจะเย็นและมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาอุณหภูมิจะอยู่ระหว่างลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
และสภาพอากาศดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน บ้านอ่าวช่อ ต.อ่าวใหญ่ อ.เมืองตราด เนื่องจากได้เกิดน้ำทะเลหนุนสูงและคลื่นลมแรง ทำให้ซัดน้ำทะเลเข้าไปในบ้านเรือนประชาชนที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งหลายต้องเก็บให้มิดชิดและสูงขึ้นเพื่อไม่ให้สิ่งของเปียกน้ำ ขณะเดียวกันชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงก็ไม่สามารถนำเรือออกทำการประมงได้เช่นกัน
นายวราวุฒิ วงศ์แก้ว อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน กล่าวว่า ตนหยุดการนำเรือออกทำการประมงมาแล้ว 4 วัน เนื่องจากคลื่นลมแรง ซึ่งปีนี้คลื่นลมแรงกว่าทุกปี ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงทำให้แรงลมคลื่นทะเลมีความรุนแรงกว่าทุกปี จึงต้องหยุดไม่ออกทำประมง เพราะเมื่อออกไปนอกชายฝั่งคลื่นที่สูงถึง 2 เมตร อาจทำให้เกิดอันตรายได้ จึงต้องหยุดทำประมงส่งผลกระทบทำให้ขาดรายได้ในช่วงนี้
นายสุธี จันทร ผู้ประกอบการเรือประมง กล่าวว่า ในช่วงนี้มีเรือเข้าจอดเทียบท่ากว่า 10 ลำ ส่วนใหญ่เป็นเรืออวนลากอวนรุน ที่มีความยาวขนาดของเรือ 9-10 วา โดยช่วงนี้ยังคงต้องจอดเทียบท่าไว้ก่อน เพราะไม่สามารถจะเดินเรือประมงไปหาปลาได้ เพราะจากสภาพอากาศแล้วยังคงมีคลื่นลมที่แรงและสูงอยู่ ซึ่งเมื่อเรือประมงไม่สามารถออกทำการประมงได้ จึงทำให้ขาดรายได้จากการประมง นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบต่อผู้ที่เป็นลูกเรือมากกว่า 40 คนที่จะต้องจ่ายค้าจ้างให้กับคนงานเดือนละ 5,000 บาท ช่วงนี้จึงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
นางวัด รวมวงษ์ แม่ค้าจำหน่ายอาหารทะเล เปิดเผยว่า ช่วงนี้ราคาของอาหารทะเลค่อนข้างปรับตัวสูงขึ้น เพราะเรือที่ออกหาปลาไม่ได้เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรง เรือเล็กไม่สามารถออกทำการประมงได้ ทำให้อาหารทะเลสด เช่น กุ้งทะเลขนาด 15-17 ตัว/กิโลกรัม ปกติขาย 430 บาท ปรับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 450 บาท และคาดว่าอาจจะมีการปรับราคาขึ้นอีกในช่วงปีใหม่
สำหรับอาหารทะเลชนิดอื่นที่รับผลกระทบจากคลื่นลมแรงในช่วงปีใหม่ และอาจต้องปรับราคาขึ้น ประกอบด้วย ปลากะพง ที่จากเดิมจำหน่ายกิโลกรัมละ 160 บาท คาดว่า จะขยับขึ้นราคาเพิ่มอีกประมาณ 5-10 บาท ปลาอินทรีย์จากเดิม 190 บาท ปรับราคาขึ้นกิโลกรัมละ 20 บาท หอยแมลงภู่ ปกติจำหน่ายกิโลกรัมละ 50 บาท อาจปรับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 20 บาท หมึกหอมจากเดิมกิโลกรัมละ 120 บาท อาจปรับขึ้นอีก 10 บาท ซึ่งทางด้านแม่ค้ายังเล่าว่า หลังปีใหม่ไปแล้วคาดว่าราคาอาหารทะเลจะมีการปรับสู่ราคาที่ปกติ
อย่างไรก็ตาม คลื่นลมแรงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมศอก ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด บรรยากาศการเดินทางของนักท่องเที่ยวยังคงคึกคักมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางไปและกลับจากเกาะกูดกันเป็นจำนวนมาก เนื่องเรือโดยสารที่มีขนาดใหญ่ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง แม้จะมีคลื่นลมแรงก็ตาม
จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนจังหวัดในภาคตะวันออกว่า ในช่วง 1-3 วันที่ผ่านมา (24-26 ธ.ค.) สภาพภูมิอากาศจะเย็นและมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาอุณหภูมิจะอยู่ระหว่างลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
และสภาพอากาศดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน บ้านอ่าวช่อ ต.อ่าวใหญ่ อ.เมืองตราด เนื่องจากได้เกิดน้ำทะเลหนุนสูงและคลื่นลมแรง ทำให้ซัดน้ำทะเลเข้าไปในบ้านเรือนประชาชนที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งหลายต้องเก็บให้มิดชิดและสูงขึ้นเพื่อไม่ให้สิ่งของเปียกน้ำ ขณะเดียวกันชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงก็ไม่สามารถนำเรือออกทำการประมงได้เช่นกัน
นายวราวุฒิ วงศ์แก้ว อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน กล่าวว่า ตนหยุดการนำเรือออกทำการประมงมาแล้ว 4 วัน เนื่องจากคลื่นลมแรง ซึ่งปีนี้คลื่นลมแรงกว่าทุกปี ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูงทำให้แรงลมคลื่นทะเลมีความรุนแรงกว่าทุกปี จึงต้องหยุดไม่ออกทำประมง เพราะเมื่อออกไปนอกชายฝั่งคลื่นที่สูงถึง 2 เมตร อาจทำให้เกิดอันตรายได้ จึงต้องหยุดทำประมงส่งผลกระทบทำให้ขาดรายได้ในช่วงนี้
นายสุธี จันทร ผู้ประกอบการเรือประมง กล่าวว่า ในช่วงนี้มีเรือเข้าจอดเทียบท่ากว่า 10 ลำ ส่วนใหญ่เป็นเรืออวนลากอวนรุน ที่มีความยาวขนาดของเรือ 9-10 วา โดยช่วงนี้ยังคงต้องจอดเทียบท่าไว้ก่อน เพราะไม่สามารถจะเดินเรือประมงไปหาปลาได้ เพราะจากสภาพอากาศแล้วยังคงมีคลื่นลมที่แรงและสูงอยู่ ซึ่งเมื่อเรือประมงไม่สามารถออกทำการประมงได้ จึงทำให้ขาดรายได้จากการประมง นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบต่อผู้ที่เป็นลูกเรือมากกว่า 40 คนที่จะต้องจ่ายค้าจ้างให้กับคนงานเดือนละ 5,000 บาท ช่วงนี้จึงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
นางวัด รวมวงษ์ แม่ค้าจำหน่ายอาหารทะเล เปิดเผยว่า ช่วงนี้ราคาของอาหารทะเลค่อนข้างปรับตัวสูงขึ้น เพราะเรือที่ออกหาปลาไม่ได้เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรง เรือเล็กไม่สามารถออกทำการประมงได้ ทำให้อาหารทะเลสด เช่น กุ้งทะเลขนาด 15-17 ตัว/กิโลกรัม ปกติขาย 430 บาท ปรับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 450 บาท และคาดว่าอาจจะมีการปรับราคาขึ้นอีกในช่วงปีใหม่
สำหรับอาหารทะเลชนิดอื่นที่รับผลกระทบจากคลื่นลมแรงในช่วงปีใหม่ และอาจต้องปรับราคาขึ้น ประกอบด้วย ปลากะพง ที่จากเดิมจำหน่ายกิโลกรัมละ 160 บาท คาดว่า จะขยับขึ้นราคาเพิ่มอีกประมาณ 5-10 บาท ปลาอินทรีย์จากเดิม 190 บาท ปรับราคาขึ้นกิโลกรัมละ 20 บาท หอยแมลงภู่ ปกติจำหน่ายกิโลกรัมละ 50 บาท อาจปรับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 20 บาท หมึกหอมจากเดิมกิโลกรัมละ 120 บาท อาจปรับขึ้นอีก 10 บาท ซึ่งทางด้านแม่ค้ายังเล่าว่า หลังปีใหม่ไปแล้วคาดว่าราคาอาหารทะเลจะมีการปรับสู่ราคาที่ปกติ
อย่างไรก็ตาม คลื่นลมแรงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมศอก ต.อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด บรรยากาศการเดินทางของนักท่องเที่ยวยังคงคึกคักมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางไปและกลับจากเกาะกูดกันเป็นจำนวนมาก เนื่องเรือโดยสารที่มีขนาดใหญ่ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง แม้จะมีคลื่นลมแรงก็ตาม
