พะเยา - “ค้าภายใน” ย้ำ ห้ามขนย้ายข้าวเปลือกเข้า-ออกพื้นที่ เผย มีคนนอกเขตพยายามสวมสิทธิ์จำนำ ขณะที่โรงสีรู้แกวปัดไม่รับ พบมีรายงานตำรวจจับกุมข้าวหอมจังหวัดขึ้นเชียงรายหวังสวม “ข้าวหอมมะลิ”
วันนี้ (26 ธ.ค.) นายพิพัฒน์พงษ์ หลวงสุภา การค้าภายในจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า สำหรับข้าวเปลือกที่จะมีการขน-ย้าย เข้าหรือออกจากพื้นที่จังหวัดพะเยา ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้มอบอำนาจให้แก่ทางการค้าภายใน เป็นผู้พิจารณาดำเนินการออกหนังสืออนุญาตให้ขนย้ายข้าวได้เพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้น
ดังนั้น หากผู้ใดที่ประสงค์จะขนย้ายข้าวเปลือกเข้า-ออก จากพื้นที่ จ.พะเยา จะต้องได้รับหนังสืออนุญาต เพื่อป้องกันกรณีที่จะมีผู้นำข้าวเปลือกจากต่างจังหวัดมาปลอมปนข้าวเปลือกหอมมะลิของจังหวัดพะเยาได้
ซึ่งมีรายงานว่า ได้มีบุคคลที่พยายามจะนำเข้าข้าวหอมจังหวัดจากจังหวัดอื่นเข้ามาในพื้นที่เพื่อหวังสวมสิทธิ์เกษตรกรแล้วนำข้าวหอมจังหวัดจำนำเป็นข้าวหอมมะลิ โดยมีแจ้งเข้ามาว่าหากมีการขนเข้ามาแล้วจะนำมาผ่องถ่ายใส่รถกระบะประมาณคันละ 5 ตัน แล้วนำไปขอเข้าจำนำในโรงสีในพื้นที่ จ.พะเยา
แต่เมื่อทางโรงสีได้ตรวจสอบแล้วไม่พบเอกสารที่ยืนยันได้ว่าเป็นเกษตรกรที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการได้ และสังเกตไม่เคยพบรถในลักษณะดังกล่าวนำข้าวเข้ามาจำนำจึงปฏิเสธไม่ให้เข้าจำนำ ทางสำนักงานจึงได้แจ้งเตือนไปยังโรงสีต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการแล้วให้ระมัดระวังมากขึ้น เพราะผิดระเบียบการรับจำนำ
นายพิพัฒน์พงษ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุด ตนได้รับแจ้งจากทางตำรวจ ว่า ได้มีผู้ที่พยายามลักลอบขนย้ายข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิจากจังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดลำปาง รวมประมาณ 37 ตัน เพื่อนำเข้าไปในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดพะเยาได้ทำการสกัดจับกุมได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะแม่ต๋ำ ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งจะสังเกตได้ว่า ผู้ที่ลักลอบกระทำดังกล่าวจะใช้เส้นทางจังหวัดพะเยาเป็นทางผ่าน
แต่สำหรับจังหวัดพะเยาแล้ว มีด่านตรวจหลายแห่งที่มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ไม่สามารถรอดพ้นได้ง่าย ตลอดจนให้ข้อสังเกตแก่ทางโรงสีร่วมเฝ้าระวัง เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมระวังและรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิชั้นดีของจังหวัดพะเยาด้วย
วันนี้ (26 ธ.ค.) นายพิพัฒน์พงษ์ หลวงสุภา การค้าภายในจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า สำหรับข้าวเปลือกที่จะมีการขน-ย้าย เข้าหรือออกจากพื้นที่จังหวัดพะเยา ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้มอบอำนาจให้แก่ทางการค้าภายใน เป็นผู้พิจารณาดำเนินการออกหนังสืออนุญาตให้ขนย้ายข้าวได้เพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้น
ดังนั้น หากผู้ใดที่ประสงค์จะขนย้ายข้าวเปลือกเข้า-ออก จากพื้นที่ จ.พะเยา จะต้องได้รับหนังสืออนุญาต เพื่อป้องกันกรณีที่จะมีผู้นำข้าวเปลือกจากต่างจังหวัดมาปลอมปนข้าวเปลือกหอมมะลิของจังหวัดพะเยาได้
ซึ่งมีรายงานว่า ได้มีบุคคลที่พยายามจะนำเข้าข้าวหอมจังหวัดจากจังหวัดอื่นเข้ามาในพื้นที่เพื่อหวังสวมสิทธิ์เกษตรกรแล้วนำข้าวหอมจังหวัดจำนำเป็นข้าวหอมมะลิ โดยมีแจ้งเข้ามาว่าหากมีการขนเข้ามาแล้วจะนำมาผ่องถ่ายใส่รถกระบะประมาณคันละ 5 ตัน แล้วนำไปขอเข้าจำนำในโรงสีในพื้นที่ จ.พะเยา
แต่เมื่อทางโรงสีได้ตรวจสอบแล้วไม่พบเอกสารที่ยืนยันได้ว่าเป็นเกษตรกรที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการได้ และสังเกตไม่เคยพบรถในลักษณะดังกล่าวนำข้าวเข้ามาจำนำจึงปฏิเสธไม่ให้เข้าจำนำ ทางสำนักงานจึงได้แจ้งเตือนไปยังโรงสีต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการแล้วให้ระมัดระวังมากขึ้น เพราะผิดระเบียบการรับจำนำ
นายพิพัฒน์พงษ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุด ตนได้รับแจ้งจากทางตำรวจ ว่า ได้มีผู้ที่พยายามลักลอบขนย้ายข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิจากจังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดลำปาง รวมประมาณ 37 ตัน เพื่อนำเข้าไปในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดพะเยาได้ทำการสกัดจับกุมได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะแม่ต๋ำ ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งจะสังเกตได้ว่า ผู้ที่ลักลอบกระทำดังกล่าวจะใช้เส้นทางจังหวัดพะเยาเป็นทางผ่าน
แต่สำหรับจังหวัดพะเยาแล้ว มีด่านตรวจหลายแห่งที่มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ไม่สามารถรอดพ้นได้ง่าย ตลอดจนให้ข้อสังเกตแก่ทางโรงสีร่วมเฝ้าระวัง เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมระวังและรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิชั้นดีของจังหวัดพะเยาด้วย
