“ปู” เทหล่อ “ระฆังทอง” ใหญ่สุดในไทย-ขนแดงศรีสะเกษร่วมนับหมื่น

ศรีสะเกษ- “ยิ่งลักษณ์” เป็นประธานเททองหล่อสร้างระฆังแผ่นดิน “สังฆวารี” วัดศรีบึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ อ้างเป็นระฆังทองใหญ่ที่สุดในประเทศไทย-เป็นอันดับ 8 ของโลก ท่ามกลางขนชาวบ้าน แก๊งเสื้อแดงร่วมนับหมื่น ย้ำเร่งฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด เดินหน้าทุกนโยบายที่หาเสียงไว้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับปากท้องความเป็นอยู่ เพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้าน พร้อมอวยพรปีใหม่ให้ ปชช.มีความสุขร่างกายแข็งแรง มีแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามาสู่ชีวิตและขอให้ประเทศไทยเดินก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความสุข

วันนี้ (25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดศรีบึงบูรพ์ ต.เป๊าะ อ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเททองหล่อระฆังแผ่นดิน “สังฆวารี” ซึ่งวัดศรีบึงบูรพ์ได้จัดพิธีนี้ขึ้น

เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณพิธี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปกราบสักการะพระประธานในโบสถ์ของวัดศรีบึงบูรพ์ จากนั้นคณะกลุ่มแม่บ้านของ อ.บึงบูรพ์ จำนวนประมาณ 100 คน รำบวงสรวงหน้าโบสถ์ และประกอบพิธีเททองหล่อระฆังแผ่นดินสังฆวารี มีหลวงปู่ศรี จันทสาโร ผู้ก่อตั้งวัดศรีบึงบูรพ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายปวีณ แซ่จึง นำคณะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.ศรีสะเกษ ประกอบด้วย นายธเนศ เครือรัตน์, นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์, นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ, นายวีระ ไตรสรณกุล, นายวีรพล จิตสัมฤทธิ์, นายมานพ จรัสดำรงนิตย์ รวมทั้งชาว อ.บึงบูรพ์ ชาวอำเภอใกล้เคียง และจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง มาร่วมพิธีในครั้งนี้เป็นจำนวนมากประมาณ 10,000 คน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระฆังทองของวัดศรีบึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ จะเป็นระฆังทองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และใหญ่เป็นลำดับที่ 8 ของโลก ซึ่งตนขออนุโมทนาบุญไปยังพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วประเทศด้วย ซึ่งในการแก้ปัญหาหลังน้ำลดเป็นสิ่งสำคัญมาก ตนจะเร่งฟื้นฟูในส่วนที่เสียหาย โดยตนก็จะดูแลในเรื่องของการซ่อมถนนหนทาง วัดวาอาราม และโรงเรียนต่างๆ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมให้เร็วที่สุด ตรงนี้คือสิ่งก่อสร้าง สิ่งต่างๆ ที่จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

ที่สำคัญการพัฒนาชุมชนนั้น ขอฝากรองนายกรัฐมนตรีด้วยว่าอยากให้การพัฒนาต่างๆ เกิดการจ้างงานในชุมชนให้มากที่สุด และขอฝากว่าหลังจากน้ำลดแล้ว รัฐบาลก็มีแผนการในการที่จะทำอย่างไรให้สามารถเพิ่มรายได้ในครัวเรือนของพี่น้องประชาชน ตั้งแต่เรื่องของกองทุนหมู่บ้าน ที่จะมีการเพิ่มเงินกองทุนในหมู่บ้าน เพื่อให้แก้ปัญหาแต่ละหมู่บ้านด้วย

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า ยังมีโอทอปที่นำไปจัดแสดงที่อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนในการที่จะพัฒนาฝีมือแรงงานในชุมชน ซึ่งตนยังไม่ลืมที่เคยมาหาเสียงไว้ที่ จ.ศรีสะเกษ เรื่องของกองทุนบทบาทสตรี ยังทำอยู่ กำลังเตรียมงานอยู่ ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า ทุกนโยบายที่ได้มีการหาเสียงไว้ ตนยืนยันเดินหน้าต่อทุกนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวกับปากท้องนโยบายที่เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน จะเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลจะเร่งเข้ามาแก้ปัญหาและที่สำคัญจะต้องเร่งฟื้นคืนมาทั้งสภาพบ้านเรือนต่างๆ และรายได้ รวมทั้งความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนขอยืนยันซึ่งในวันนี้ทั้งรัฐมนตรี รวมทั้ง ส.ส.ได้มายืนยันว่าจะติดตามและคอยดูแล เพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้มีชีวิตเป็นปกติสุขโดยเร็ว

วันนี้เสียงรัฐบาลทุกเสียง เสียง ส.ส.ทุกเสียงมาจากเสียงของประชาชน ดังนั้น ตนจะทำเพื่อประชาชน ไม่มีย่อท้อ ขอเพียงแต่ประชาชนไม่ต้องท้อ ถ้าทุกคนสู้ก็จะเดินฟันฝ่าไปด้วยกัน วิกฤตครั้งนี้เราต้องเปลี่ยนเป็นโอกาส ต้องเปลี่ยนวิกฤตนี้เป็นพลังสามัคคี และให้ทุกคนก้าวพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้

“ใกล้ถึงปีใหม่แล้ว ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พ่อแม่พี่น้องทุกท่านนับถือ ขอให้ดลบันดาลให้ทุกท่านมีแต่ความสุข สุขภาพร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง มีการพัฒนาที่ดีขึ้น มีแต่สิ่งที่ดีๆ เข้ามาสู่ชีวิต และที่สำคัญขอให้ทุกท่านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และขอให้ประเทศไทยเดินก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความสุข และขอให้ทุกคนมีความสุข ภายใต้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบารมีของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว