เพชรบุรี - เกษตรกรชาวนาในพื้นที่อำเภอบ้านลาด เมืองเพชรบุรี เดือดร้อนหนัก โวยโครงการรับจำนำข้าวนาปี หลังสำนักงาน ธ.ก.ส.บ้านลาด นัดรับเงินค่าข้าวในโครงการล่าช้า รวมตัวร้องประธานกลุ่มเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรีหาแนวทางแก้ไขด่วน
นายประนม จิตปราณี ประธานกลุ่มเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี ในฐานะกรรมการแก้ไขปัญหาผลผลิตเกษตรกรตกต่ำ จังหวัดเพชรบุรี และคณะกรรมการข้าวระดับจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องราวร้องเรียนจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจำนำข้าวเปลือกนาปีในส่วนของอำเภอบ้านลาด กรณีขั้นตอนการรับเงิน ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. อำเภอบ้านลาด ล่าช้า จากที่กำหนดไว้ 3 วัน หลังจากที่เกษตรกรนำใบประทวนจากโรงสีที่เข้าร่วมโครงการมายื่นถึง ธ.ก.ส. โดยเฉพาะในสัปดาห์ที่ผ่านมามีเกษตรกรหลายรายประสบปัญหาดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
นายประนม จิตปราณี กล่าวอีกว่า เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรู้สึกพึงพอใจต่อราคาข้าวที่ได้รับในปีนี้แต่ในส่วนตัวมองว่าขั้นตอนการตรวจวัดความชื้นของโรงสีบางแห่งยังไม่ชัดเจน อาจมีการแอบแฝงวิธีการที่ทุจริตเข้าไป
ส่วนด้าน ธ.ก.ส.สาขาบ้านลาด ออกมายอมรับว่าขั้นตอนการรับเงินล่าช้าจริง เนื่องจากมีเกษตรกรในพื้นที่เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้มีการวางระบบและแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว
โดยนายปรีดา ทองอยู่ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาบ้านลาด ออกมายอมรับว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ขั้นตอนการจ่ายเงินนั้นล่าช้ากว่ากำหนดจริง เนื่องจากในอำเภอบ้านลาดมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเกือบ 4,000 ราย และในช่วงเวลาดังกล่าวเกษตรกรก็เก็บเกี่ยวผลผลิตพร้อมกัน จากนั้นก็นำใบประทวนจากโรงสีข้าวมายื่นเพื่อขอรับเงินจาก ธ.ก.ส.ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งในข้อเท็จจริงทางสำนักงานฯ สามารถรองรับเกษตรกรได้เพียง 200 รายต่อวัน อีกทั้งบุคลากรของสำนักงานก็มีไม่เพียงพอต่อการใช้บริการ จึงส่งผลให้เกษตรกรไม่ได้รับเงินตามกำหนด ในระยะเวลา 3 วันทำการ อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวทาง ธ.ก.ส.สาขาบ้านลาดไม่ได้นิ่งนอนใจ
นายปรีดาระบุว่า ในสัปดาห์นี้ได้เร่งแก้ไขปัญหาด้วยการระบบการให้บริการขึ้นใหม่และเพิ่มวงเงินการให้บริการในแต่ละวัน คาดว่าจะส่งผลให้เกษตรกรพึงพอใจในระดับหนึ่ง
สำหรับข้อมูล ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2554 โครงการรับจำนำข้าวเลือกนาปีที่อำเภอบ้านลาด มีเกษตรกรนำข้าวมาร่วมโครงการแล้ว 2,694 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 10,038 ตัน วงเงินรับจำนำ 147,968,282 บาท ขณะที่ยอดรวมทั้งจังหวัด ณ วันที่ 18 ธันวาคมมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้ว 10,692 ราย ยอดเงินรวม 1,065,645,368 บาท
