ศูนย์ข่าวศรีราชา - วันคล้ายวันประสูติ “เสด็จเตี่ย” กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาทหารเรือไทย 19 ธันวาคม เวียนบรรจบ ลูกราชนาวีไทยพื้นที่สัตหีบ พร้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มพลังมวลชน สมาคม ชมรมต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณร่วมบวงสรวงถวายเครื่องสักการะแด่ดวงพระวิญญาณของพระองค์
วันนี้ (19 ธ.ค.) กองทัพเรือได้กำหนดให้เป็นวันอาภากร หรือวันคล้ายวันประสูติของพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาทหารเรือไทย ผู้ทรงสถิตสถาพรอยู่ในดวงใจของทหารเรือไทยทุกหมู่เหล่า และประชาชนชาวไทยตลอดมา
ในปีนี้ พลเรือโท ชัญณรงค์ เจริญรักษ์ ผู้บัญชาการ ฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมกับแทนหน่วยงานกองทัพเรือ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงถวายเครื่องสักการะ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สวนกรมหลวงชุมพร หรือสวนสาธารณะหนองตะเคียน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ ฉันภัตตาหารเช้าเพื่อความเป็นสิริมงคล และอุทิศส่วนกุศลถวายแด่ดวงพระวิญญาณของพระองค์
ซึ่งในพิธีทหารเรือทุกนายต่างพร้อมใจกันบรรเลงและขับร้องเพลงพระราชทาน เดินหน้า ดอกประดู่ และดาบของชาติ เพื่อรำลึกถึงพระองค์ ซึ่งทหารเรือทุกนายเชื่อว่ายังสถิตอยู่บนทิพย์วิมาน หรือสรวงสวรรค์ เพื่อคุ้มครอง ดูแล ลูกหลานของพระองค์ท่านไม่ให้อริศัตรูมาแย่งแผ่นดินสยามไปได้
สำหรับพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2423 ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาโหมด ในปีพุทธศักราช 2436 ได้เสด็จไปศึกษาวิชาการทหารเรือ ณ ประเทศอังกฤษ ผลการศึกษาปรากฏอยู่ในขั้นดีเยี่ยม มีพระวิริยะอุตสาหะ พระจริยวัตรที่งดงามเป็นที่รักใคร่ของครูอาจารย์และเป็นที่ยอมรับของชาวอังกฤษ
เมื่อจบการศึกษาได้เสด็จกลับเข้ารับราชการในกระทรวงทหารเรือ รับพระราชทานยศเป็น นายเรือโทผู้บังคับการ ในตำแหน่งนายธงผู้บัญชาการทหารเรือ เมื่อปีพุทธศักราช 2448 ทรงดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ทรงได้ปรับปรุงการศึกษาของโรงเรียนนายเรือให้เจริญก้าวหน้าดังปรากฏ ทำให้ทหารเรือไทย มีความรู้ ความสามารถ ความชำนาญ สามารถเป็นครูและผู้บังคับบัญชาทหารเรือได้โดยไม่ต้องพึ่งพาชาวต่างประเทศ
เมื่อปีพุทธศักราช 2450 ทรงเป็นผู้บังคับการเรือหลวงมกุฎราชกุมาร นำนักเรียนนายเรือ และนักเรียนช่างกล ไปฝึกภาคต่างประเทศ ได้ทรงนำเรือและที่ประเทศสิงคโปร์ เปลี่ยนสีเรือจากสีขาวเป็นสีหมอกให้เหมือนเรือรบต่างประเทศ เพื่อให้กลมกลืนกับลักษณะของสีน้ำทะเลและภูมิประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ พระองค์ท่านยังได้ทรงศึกษาตำราหมอยาไทยอย่างจริงจัง จนมีความรู้แตกฉาน ทรงเป็นหมอยาไทย รับรักษาประชาชนทั่วไป ด้วยน้ำพระทัยโอบอ้อมอารี จนได้รับพระสมัญญาว่า “หมอพร” แห่งราชนาวีไทยด้วยเช่นกัน