กาญจนบุรี - วัยรุ่นกาญจน์ซิ่งกระบะแหกโค้งอาถรรพ์ชนเสาไฟฟ้าพังยับ กระเด็นออกนอกรถ 3 ติด ภายใน 2 อาการสาหัส จนท.ขนหัวลุกเหตุคนขับเผยหักหลบวิญญาณ
เมื่อเวลา 04.30 น.วันนี้ (19 ธ.ค.) ร.ต.อ.ชัยพร พูลจันทร์ทึก พนักงานสอบสวน 1 สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่า เกิดเหตุรถยนต์กระบะแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าที่บริเวณ 4 แยกไฟแดงชุกโดนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเดินทางไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ แค็บ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บธ 8128 กาญจนบุรี จอดขวางถนนอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน มีเอกสารโฉนดที่ดินจำนวนมากตกกระจายเต็มถนน พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายติดอยู่ภายในบริเวณด้านหน้าฝั่งคนขับและเบาะด้านซ้าย รวม 2 ราย ซึ่งร้องขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวด
เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างชายทั้งสองออกมาจากรถยนต์ ใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถนำร่างออกมาได้ และช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาอย่างเร่งด่วน
นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่กระเด็นออกมาจากตัวรถอีกจำนวน 3 ราย โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้นำตัวส่ง รพ.พหลฯ ไปก่อนหน้านั้น รวมผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งหมด 5 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายธีรวัฒน์ ดีเนียม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 11 ต.หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม นายพงษ์ศิริ แย้มพวง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 5 ต.หนองลาน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นายวันชัย พักเพียง อายุ 21 ปี ไม่มีบ้านเลขที่ ต.หนองลาน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นายรุ่งโรจน์ เหล่าพานิช อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/3 ต.พระแท่นดงรัง อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และนายณัฐพล สวนหมอบ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 427 ค่ายสุริยพา จทบ.น่าน อ.น่าน จ.น่าน
นายพงษ์ศิริ แย้มพวง หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บและเป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าว บอกกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาลว่า ตนกับเพื่อนขับรถออกมาจากตัวเมือง เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านที่อำเภอท่ามะกา เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกไฟแดงและเป็นทางโค้ง ซึ่งมีบรรยากาศมืดสลัว จู่ๆ ตนก็เห็นเงาคล้ายวิญญาณเดินตัดหน้ารถยนต์อย่างกะทันหัน ด้วยความตกใจตนจึงหักพวงมาลัยหลบ ขณะรถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วตนบังคับรถไม่อยู่จึงเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่อยู่ข้างทางอย่างแรง ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้ฟัง ทุกคนต่างเกิดอาการขนลุกขึ้นมาทันที เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทุกคนทราบดีว่าบริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วจำนวนมาก